ยักษ์ลงทุน – บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” “พาย” มองว่า สัปดาห์นี้ติดตามปัจจัยสำคัญได้แก่การรายงานผลประชุม FED ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถ้อยแถลงล่าสุดของประธาน FED (Jerome Powell) เริ่มส่งสัญญาณเชิงเข้มงวดมากขึ้น (Hawkish) ในสัปดาห์ก่อนได้ระบุว่าจะไม่ ลังเลที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินเฟ้อให้อ่อนตัวลงมา ถือเป็นการส่งสัญญาณจากประธาน FED ที่ให้ความสนใจกับเงินเฟ้อมากกว่าเศรษฐกิจ หรือกล่าวได้ว่ายอมให้เศรษฐกิจเสียหายหากเงินเฟ้ออ่อนตัวลงมา
ดังนั้นหากรายงานผลประชุมมีการเปิดเผยถึงแผนดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดก็อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นเกิดการปรับฐาน (รายงานผลประชุม FED ในวันพฤหัสบดีช่วงตี 1 ตามเวลาประเทศไทย หรือทราบผลทางการช่วงเช้าพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย)
ขณะที่ในวันอังคารช่วง 5 ทุ่มตามเวลาประเทศไทยประธาน FED จะมีแถลงเปิดงานที่ Las Vegas เชื่อว่าตลาดจะรอดูถ้อยแถลงที่เกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยในประเทศจะมีการรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศในระหว่างวันจันทร์ถึงวันพุธ Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกจะขยายตัว 14.5%YoY ด้านนำเข้าขยายตัว 17.8%YoY โดยคาดดุลการค้าติดลบ 621 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากรายงานดีกว่าคาดก็มองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นและหากรายงานดุลการค้าเป็นบวกจะเป็นอีกปัจจัยเชิงบวกต่อ Fund Flow โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1600 – 1650 จุด
เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นอยู่ในจังหวะของการฟื้นตัวหลังปรับฐานลงมาก่อนหน้านี้ มองแนวต้านโซน 1660 เป็นจุดเริ่มทำกำไร โดยช่วงนี้ยังสามารถ Trading ได้แนะนำ (SCGP) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ผลบวกจากการผ่อนคลายมาตรการท่องเที่ยว กลุ่มค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอาหาร (BJC CPALL)
SCGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 66.00 บาท) คาดกำไรปรับดีขึ้นตั้งแต่ Q2/65 เป็นต้นไป หนุนจากการคลายล็อกดาวน์ที่จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ ราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นในสภาวะต้นทุนที่สูงขึ้น และกำลังการผลิตใหม่
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท) คาดถึงภาพรวมเชิงบวกในปี 65 เพราะประเมินว่าอุตสาหกรรมโรงแรมจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในปีนี้ เพราะมีการฉีดวัคซีนกันอย่างแพร่หลาย บวกกับการผ่อนปรนมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะทำให้กำไรปี 65 อยู่ในแดนบวก