ยักษ์ลงทุน – YGG มั่นใจปีนี้รายได้เติบโต 20% ตามแผน เดินหน้าจับมือพันธมิตรรุกธุรกิจทุกด้าน ยกระดับเป็นผู้นำดิจิทัลคอนเทนต์ คาดไตรมาส 3/65 จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับมาสเตอร์แอดสำเร็จ พร้อมรับรู้รายได้ในไตรมาส4 ทันที ขณะเดียวกันเตรียมปล่อยเกมใหม่ภายใต้ชื่อ GOI และโปรเจคแกรนด์โดร่า (เมตาเวิร์สโปรเจ็ค) ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG กล่าวถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 65 คาดว่าผลประกอบการในปีนี้รายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 15-20% โดยพิจารณาจากงานในมือที่มีในปัจจุบัน ซึ่งมีการเติบโตในทุกส่วนธุรกิจ ทั้งด้านเกมและอินโนเวชั่น งานโฆษณาและภาพยนตร์ รวมทั้งภาพยนตร์แอนิเมชั่น รวมทั้งในการดำเนินธุรกิจจากนี้ไป บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรรุกธุรกิจในแต่ละด้านมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และยกระดับ YGG ขึ้นเป็นผู้นำดิจิทัลคอนเทนต์
สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด(มหาชน) หรือ MACO นายธนัช กล่าวว่า กระบวนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 3/65 โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะดำเนินธุรกิจด้านเกมและด้านพลับลิชชิ่ง ซึ่งจะเป็นการผนึกกำลังเพื่อดึงศักยภาพผู้นำด้านคอนเทนต์ของ YGG กับผู้นำด้านสื่อการตลาดอย่าง MACO สร้างความแข็งแกร่งและความได้เปรียบในการแข่งขัน ในเบื้องต้นจะมีการพัฒนาเกมใหม่ 2 เกม และคาดว่าบริษัทดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ทันทีในปลายไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นอกจากนี้ในส่วนของ YGG มีแผนที่จะออกเกมใหม่ภายใต้ชื่อ GOI และโปรเจคแกรนด์โดร่า ภายในไตรมาส 3 และช่วงปลายปีก็จะมีการจัดกิจกรรม (อีเว้นท์)เพื่อโปรโมทเกม ให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง รวมทั้งคาดการณ์ว่าอาจจะเปิดตัวเกม 9 eyes ในลำดับถัดไป ซึ่งขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งเครื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนการพัฒนา โดยบริษัทจะไม่จำกัดแค่ตลาดในประเทศ แต่จะรวมถึงตลาดเอเซียแปซิฟิค และตลาดโลก ซึ่งปีนี้และปีหน้าจะเป็นปีที่เราคาดหวังจะเห็นศักยภาพจากธุรกิจเกมอย่างจริงจังหลังจากปีที่ผ่านมาเปิดตัวเกม Home Sweet Home Survive (HSH) ไปเพียงแค่ 1 เกม
ส่วนกรณีเหรียญคริปโตร่วงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัท เป็นเพียงผู้พัฒนาเกมและที่ปรึกษาให้ zookeepers เท่านั้น หน้าที่ของYGG คือเน้นทำเกมให้สนุกตรงกับความต้องการของผู้เล่น ส่วนมูลค่าเหรียญเป็นส่วนเสริมให้กับบริษัทเท่านั้น
นายธนัช ได้กล่าวถึง ผลประกอบการไตรมาส 1/65 บริษัทมีอัตรากำไรและรายได้เติบโตสูงกว่างวดไตรมาส 1/64 เนื่องจาก บริษัทมีรายได้จากส่วนงานต่างๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น งานโฆษณาและภาพยนตร์มีรายได้ 51.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 81.11% ซึ่งมาจากการรับงานที่มีมูลค่าเฉลี่ยต่องานสูงขึ้นกว่างานที่เคยรับมาในอดีต หลังจากบริษัทใช้เวลาสั่งสมประสบ การณ์ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการมอบงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น ส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น มีรายได้ 25.05 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ส่วนงานเกมและอินโนเวชั่น มีรายได้ 10.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.81% ซึ่งเป็นการเติบโตจากเกม Home Sweet Home Survive ที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวเกมไปช่วงเดือน มี.ค. 64 อีกทั้งบริษัทเพิ่งตัวปล่อยเวอร์ชั่นอัพเกรดของ Home Sweet Home Survive เพื่อให้เกมมีความแปลกใหม่ สนุกสนาน ตื่นเต้น และตรงกับความต้องการของผู้เล่นมากขึ้น