ยักษ์ลงทุน – บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TSE ปิดดีลเข้าซื้อโซลาร์ฟาร์มประเภท Solar Tracking ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งและซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 480 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 3/65 เป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตไฟฟ้าให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและหนุนกำไรปี 65
ดร. แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า บริษัท โซล่าร์ วิซิเบิล จำกัด (“SV”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์ฟาร์มประเภท Solar Tracking ซึ่งเป็นระบบปรับมุมองศาตามทิศทางดวงอาทิตย์ ในสัดส่วน 100% โครงการ “ซอยล์กรีต” ขนาดกำลังการผลิตและติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนรวมจำนวนทั้งสิ้น 482 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ซอยล์กรีต เทคโนโลยี จำกัด (“SCT”) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภทติดตั้งบนพื้นดิน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนงานการขยายกำลังการผลิตในประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 286.20 เมกะวัตต์
โซลาร์ฟาร์ม “ซอยล์กรีต” นี้ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว (COD) เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.58 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระยะเวลา 25 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in Tariff (FiT) เท่ากับ 5.66 บาท (บาท/ กิโลวัตต์-ชั่วโมง) โซลาร์ฟาร์มประเภท Solar Tracking นี้ มีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบปรับมุมองศาหมุนตามทิศทางดวงอาทิตย์ (Solar Tracking System) ทำให้รับความเข้มของแสงได้สูงสุดตลอดวัน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเฉลี่ย (Capacity Factor) ในระดับที่ดียิ่งขึ้น ภายหลังการเข้าซื้อกิจการแล้ว บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 3/65 นี้
สำหรับแผนการลงทุนในปี 65 นี้ บริษัทฯ จะยังคงเน้นลงทุนไปในด้านพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อเข้าร่วมประมูลในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในประเทศ โดยขณะนี้ บริษัทฯ ยังมีอีก 1 โซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น โครงการ “โอนิโกเบ” ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 147 MW ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 60 หวังมุ่งสู่พลังงานสะอาดเพื่อขยายกำลังการผลิตในธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกประมาณ 100 – 200 MW PPA ภายในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ ตามแผนงานที่วางไว้