‘บมจ.บูลเวนเจอร์ กรุ๊ป’ ผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันที่เกี่ยวเนื่องในธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 157.5 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ชูประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการธุรกิจ ยกระดับมาตรฐานการให้บริการตลอดห่วงโซ่คุณค่า สร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่อุตสาหกรรมประกันภัย (Industry Game Changer) เพื่อการเติบโตยั่งยืน พร้อมขยายการให้บริการสู่อุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและให้บริการระบบบริหารจัดการสำหรับธุรกิจประกันวินาศภัยและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 20 ปี โดยใช้ฐานข้อมูล (Big Data) มาพัฒนาระบบการให้บริการตลอดห่วงโซ่คุณค่าด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อให้บริการระบบแพลตฟอร์มกลางในการจัดการธุรกิจให้แก่อุตสาหกรรมประกันภัย (Standard Platform ) ยกระดับมาตรฐานกระบวนการทำงานของธุรกิจประกันภัยรถยนต์และธุรกิจประกันสุขภาพ สู่การเป็น InsurTech สร้างประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่าและมอบประสบการณ์การให้บริการที่เข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
บริษัทฯ เป็นผู้บุกเบิกและผู้นำการประกอบธุรกิจให้บริการระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่น สำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ ที่มีความเชี่ยวชาญการพัฒนาแพลตฟอร์มโซลูชันที่มีเทคโนโลยีครอบคลุมกระบวนการและเชื่อมต่อห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจประกันภัยรถยนต์ โดยการให้บริการ ระบบ EMCS ( Electronic Motor Claim Solution ) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ กระบวนการรับแจ้งการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์การจัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัยไปยังที่เกิดเหตุและการแจ้งเคลมแบบ online (m-survey) และการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนในกระบวนการจัดซ่อม (e-claim) และการจัดซื้ออะไหล่ (e-Part) และระบบเสริมอื่นๆเช่น ระบบสำหรับบ.รถยก (e-towing ) ระบบการจัดการประมูลซากรถยนต์ (e-Auction) ระบบบริหารงานภายในอู่ซ่อมสำหรับลูกค้าเงินสด (e-Garage) อีกด้วย ซึ่งเป็นการพลิกโฉมให้บริการเคลมประกันภัยรถยนต์ บริษัทฯได้รับความไว้วางใจใช้บริการระบบจากบริษัทประกันภัย 34 แห่ง หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดกว่าร้อยละ 97 จากจำนวนกรรมธรรม์ของลูกค้าบริษัทประกันภัยของบริษัทฯ และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสินไหมรถยนต์ มากกว่า 3,700 ราย ได้แก่ บริษัทสำรวจภัย ศูนย์บริการมาตฐาน อู่ซ่อม ร้านเปลี่ยนกระจกรถยนต์ บริษัทรถยก ร้านอะไหล่ ร้านซ่อมแมคและไฟเบอร์ บริษัทประมูลซากรถ เป็นต้น โดยมีปริมาณเคลมที่มีการบริหารจัดการผ่านระบบกว่าปีละ 1.5 ล้านเคลม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการสนับสนุนปฏิบัติงานแก่ธุรกิจประกันภัย ผ่านการดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท บลูเวนเจอร์ ทีพีเอ ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทนในกลุ่มธุรกิจประกันสุขภาพ เพื่อให้บริการแก่บริษัทประกันและบริหารจัดการสวัสดิการรักษาพยาบาลให้แก่บริษัทเอกชนชั้นนำของประเทศไทยที่มีการจัดการสวัสดิการพนักงานด้วยตัวเอง โดยมีสถานพยาบาลเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงคลินิกทั่วประเทศมากกว่า 500 แห่ง สามารถใช้ระบบตรวจสอบสิทธิความคุ้มครองของผู้เอาประกันภัยและพนักงานขององค์กรทั่วไปที่บริหารจัดการสวัสดิการพนักงานด้วยตนเอง รวมกันกว่า 8.8 ล้านคน นอกจากนี้ ยังให้บริการคำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยโดย บริษัท บลูเวนเจอร์ แอคชัวเรียล จำกัด และให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ๆที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่องค์กร โดย บริษัท บลูเวนเจอร์ เทค จำกัด อีกด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการใช้บริการและตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป’ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างการเข้าถึงและตอบสนองการใช้บริการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผล เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่คุณค่าของการดำเนินธุรกิจประกัน ช่วยผู้ประกอบการภาคธุรกิจลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความรวดเร็วด้านการให้บริการแก่ลูกค้า ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยทั้งธุรกิจประกันภัยรถยนต์และธุรกิจประกันสุขภาพเติบโตยั่งยืน
“เราเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ ที่พร้อมเป็น Industry Game Changer ที่จะเข้าไปพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆ โดยขยายการให้บริการแพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์แพลตฟอร์มโซลูชั่นและแอปพลิเคชันให้แก่ลูกค้าในภาคธุรกิจต่างๆ ยกระดับการให้บริการตลอดห่วงโซ่คุณค่าด้วยการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อสร้างประสบการณ์ความพึ่งพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าและผู้บริโภค” นางนวรัตน์ กล่าว
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย
ปัจจุบัน บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียน 225 ล้านบาท แบ่งเป็น 450 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 180 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 360 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 90 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 67.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนรวมไม่เกินร้อยละ 35 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้แบ่งใช้เป็น 3 ส่วน ซึ่งประกอบด้วย 1. พัฒนาระบบ AI และระบบสารสนเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ 2. ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน โดยการลงทุนหรือร่วมทุนกับบริษัทอื่น 3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ