ชู ONE-UGG-ASSF
และ ONE-UGERMF
จากระดับราคาที่ปรับตัวลงมากและยังคงศักยภาพในการเติบโตระยะยาวที่โดดเด่นด้วยธุรกิจที่เป็น Mega trend
ของโลก ควบคู่กับกองทุน ONE-ALLCHINA-ASSF
จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นที่ต่อเนื่อง
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นโลกในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าปรับตัวลดลงแรง จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางหลักของโลกปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง
แนะทางลงทุนรับมือความผันผวน
การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นทั่วโลกอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว จนทางการหลายประเทศต้องเข้ามาแทรกแซงค่าเงินไม่ให้อ่อนค่ารวดเร็ว จนกระทบอุปสงค์ในประเทศ
เช่น ทางการญี่ปุ่นที่เข้าแทรกแซงเงินเยนเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998 กอปรกับ ประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ เป็นอีกประเด็นที่กดดัน บรรยากาศการลงทุน อาทิ สถานการณ์สงครามในยุโรปที่ยืดเยื้อ หรือ สหรัฐฯส่งทหารร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ เพื่อปรามการคุกคามของเกาหลีเหนือ และรับมือความตึงเครียดจีน-ไต้หวัน
“การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ระหว่างวันที่ 27-28 ต.ค. ซึ่งจะกำหนดทิศทางของราคาน้ำมันและตลาดหุ้นที่มีนัยสาคัญ ภาวะการลงทุนตลาดต่างประเทศ เดือนนี้ มีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน
ซึ่งมองว่า เงินเฟ้อทั่วโลก มีแนวโน้มชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงที่เหลือของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า จากฐานการเปรียบเทียบที่สูง และราคาน้้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการขนส่งและผลิตสินค้า ปรับตัวลดลงเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะทำให้ท่าทีของธนาคารกลางต่างๆต่อจากนี้ เป็นไปในทิศทางที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น” นายพจน์กล่าว
หุ้นกลุ่มเติบโตยังน่าสนใจ
อย่างไรก็ดี ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ แนะนำหุ้นในกลุ่มเติบโต (Growth) ที่มีคุณภาพและงบการเงินแข็งแกร่ง ซึ่งยังคงความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม และมีศักยภาพในการสร้างการเติบโตที่โดดเด่นในระยะข้างหน้า
จากข้อมูลของ Goldman Sachs พบว่าหุ้นกลุ่ม Information technology ของสหรัฐฯ เป็นกลุ่มที่ยังคงความสามารถในการสร้างกำไร (Margin) จากธุรกิจได้กว่า 20% อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมากที่สุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ และโดดเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี S&P500 ราวเท่าตัว
ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวถูกเทขายลงมาค่อนข้างมาก จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีมูลค่าที่สมเหตุผลยิ่งขึ้น หากอิงข้อมูลสถิติในอดีตมาประกอบพบว่า หลังการปรับฐานกว่า -25% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นบวกโดดเด่นในช่วง 1 ปีให้หลัง โดยเฉลี่ยราว 21.6%
ตลาดหุ้นจีนยัง Laggard
ในขณะเดียวกัน บลจ.วรรณยังมองเป็นโอกาสการลงทุนหุ้นจีน ปัจจัยบวกจากนโยบายเศรษฐกิจ แนวโน้มการผ่อนคลายการคุมเข้มบริษัทจดทะเบียน รวมทั้ง นโยบายการเงินที่ยังผ่อนคลาย
อีกทั้งการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งได้เปิดฉากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง จะได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งช่วยหนุนเสถียรภาพทางการเมืองของจีน โดยคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐออกมาเพิ่มเติมอีกในระยะข้างหน้า
ขณะที่ Valuation ในปัจจุบันค่อนข้างยัง Laggard กว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคโดย 12M Forward P/E ของดัชนี MSCI China อยู่ที่ราว 10 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยในภูมิภาคอยู่ที่ราว 12.6 เท่า
แนะกองทุนเด่นได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุน พร้อมสิทธิ์ลดหย่อนทางภาษีในธีมของหุ้นกลุ่มเติมโตภายใต้การบริหารของบลจ.วรรณ ที่แนะนำ ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อเพื่อการออม แบบไม่จ่ายเงินปันผล (ONE-UGG-ASSF)
และ/หรือกองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หน่วยลงทุนชนิดทั่วไป (ONE-UGERMF-A ) ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นจากทั่วโลก ซึ่งบริษัท มองว่า ที่ผ่านมา ราคาหุ้นเติบโตสูง ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากจากแรงกดดันด้านนโยบายการเงิน ทำให้มูลค่าหุ้นในปัจจุบันมีความสมเหตุสมผลมากขึ้นเทียบกับอดีต
ขณะที่การเติบโตในระยะยาวยังโดดเด่น สามารถเติบโตไปกับ Mega trend ของโลกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่ (New Normal) ของคน องค์กรรัฐ และภาคธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีในระยะยาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการแข่งขัน สามารถสร้างการเติบโตของรายได้ที่ต่อเนื่อง (Real organic growth) เช่น มีนวัตกรรม นำเสนอสินค้าและบริการเฉพาะตัว ทำให้มีความสามารถในการกำหนดราคาสินค้า และสามารถก้าวข้ามช่วงความผันผวนของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมหภาคได้ดีในระยะยาว
คงมุมมองเชิงบวกในตลาดหุ้นจีน
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ซึ่งบริษัทแนะนำกองทุนเปิด วรรณ ออล ไชน่า อิควิตี้ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม แบบไม่จ่ายเงินปันผล (ONE-ALLCHINA-ASSF) ซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนอย่างยืดหยุ่นผ่านกองทุนต่างประเทศหลากหลายธีม (Fund of Funds)
ทำให้สามารถเลือกลงทุนในหุ้นจีนได้อย่างหลากหลายทั้งหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเก่า (Old Economy) และใหม่ (New Economy) ซึ่งจะช่วยกระจายและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน นอกจากนี้ เริ่มมีสัญญาณว่านักลงทุนสถาบันเริ่มกลับมาลงทุนในหุ้นจีนเพิ่มขึ้น
ดังนั้น บลจ.วรรณ มองเป็นโอกาสการกระจายการลงทุนในกองทุนหุ้นและถือลงทุนในระยะยาว อีกทั้งในช่วงนี้ ผู้ลงทุนยังได้รับสิทธิ์ลดหย่อนทางภาษี ซึ่งจะเป็นโอกาสการลงทุนที่ดีในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 4 ของปี