TMI ฟอร์มดีทุกมิติ! เผยงบ Q3/2565 กวาดรายได้เกือบ 145 ล้านบาท กำไรทะลัก 519.55% คาดโรงไฟฟ้าฯ เสริมรายได้ต่อเนื่อง หวังล้างขาดทุนสะสม แง้มข่าวดีอาจมีปันผลให้ผู้ถือหุ้น
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 9.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 519.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 2.19 ล้านบาท เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจในหลายภาคส่วนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ และมีความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 144.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.13% โดยมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 132.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.34% หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้บริษัทฯ เริ่มมีรายได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายในส่วนของหน่วยงานราชการที่มีมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการขายไฟฟ้าในไตรมาสนี้อยู่ที่ 12.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าอยู่ที่ 8.76 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากการขายไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดชุมพร ที่มีกำลังการผลิตรวม 2.4 เมกะวัตต์ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานชีวภาพในตลาดเพิ่มสูงขึ้นตามกระแสโลกที่หันกลับมาเน้นใช้พลังงานสะอาด (Green Energy) มากขึ้น ในส่วนของรายได้อื่นนั้น บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น 103.18% สาเหตุจากกำไรจากการซื้อขายสัญญาเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า
“หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายจากการกลับมาของหน่วยงานต่าง ๆ ในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยงานราชการบริษัทฯ มียอดขายที่มีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ มีรายได้จากการขายไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มสูงขึ้น จากกระแสโลกที่เน้นการใช้พลังงานสะอาดที่มากขึ้น รวมทั้งจากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวภาพทั้ง 2 แห่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และทำกำไรได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับประเภทส่องสว่างในรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัยและตอบโจทย์ตรงใจต่อความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง” นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทฯ หวังว่าสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ เนื่องจากมองว่าในปีนี้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพแห่งที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือจากยอดขายของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัทฯ
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ คาดว่ายังคงเดินหน้าลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวภาพอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมีแผนทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่และโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดที่ตอบสนองความลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทางบริษัทฯ มีแนวโน้มอาจจะพิจารณาการจ่ายปันผลประจำปีได้