ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2566 จะเป็นปีที่บริษัทฯ รุกสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ธุรกิจ 6 แกนหลักที่ปรับโครงสร้างเมื่อปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1) Event, Exhibition & Festival โดยจะต่อยอดการเป็นผู้จัดงานด้านยานยนต์ระดับภูมิภาค สู่การจัดงานอีเวนต์รูปแบบอื่นๆ ในด้าน Lifestyle & Entertainment 2) Lifestyle Media + News ต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อยานยนต์ สร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ หรือ Online to Offline (O2O) เพื่อขยายฐานลูกค้าในช่องทางที่หลากหลาย 3) Award & Trophy ธุรกิจจัดงานประกาศรางวัลที่เกี่ยวกับยานยนต์ ท่องเที่ยว และกีฬา 4) Sport & Competitions ธุรกิจสปอร์ตอีเวนต์และดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต 5) Printing & Packaging ธุรกิจงานพิมพ์ ซึ่งมีเป้าหมายขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่งานพิมพ์แพคเกจจิ้ง สร้างมูลค่าเพิ่มงานพิมพ์ และ 6) E-Commerce & Mobile App & Others ประกอบด้วย ธุรกิจตกแต่งรถยนต์ ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากขยะแปรรูป และไลฟ์สไตล์แอปพลิเคชัน เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการที่ GPI มีการปรับปรุงแบรนด์และภาพลักษณ์ใหม่ การพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ จึงต้องมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่คือ วิสัยทัศน์ที่ตื่นตาตื่นใจ สร้างประสบการณ์ที่สุดพิเศษ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ โดยนำวิสัยทัศน์บวกกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อต่อยอดการเติบโตไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้าง New S-Curve ใหม่ๆ
“ปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเติบโตครั้งสำคัญของ GPI โดยในไตรมาสแรก บริษัทฯ มีธุรกิจที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่น กิจกรรม Meet & Greet ศิลปินและนักแสดงเกาหลี การจัดงานวิ่งครอสคันทรี่ เอ็กซิบิชั่นเกี่ยวกับของเล่นและของสะสม รวมถึงการจัดแข่งขันดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ตที่วางไว้กว่า 40 ครั้งตลอดทั้งปี เป็นต้น โดยกิจกรรมทั้งหมดอยู่ระหว่างการเตรียมแผน ตลอดจนพูดคุยกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ เพื่อผนึกกำลังและผสานความเชี่ยวชาญร่วมกันในการจัดงานให้น่าตื่นเต้นและมีผลตอบรับที่ดีจากผู้เข้าชม”
ดร.ปราจิน กล่าว