นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 (ต.ค-ธ.ค. 2565) เติบโตสูงสุดรายไตรมาสตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (Highest Quarterly Profit) โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 86 ล้านบาท เติบโต 139.9% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2565 มีกำไรอยู่ที่ 36 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.2565) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 274.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.60% จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 222.04 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 999.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.7% จากปี 2564 มีรายได้อยู่ที่ 720.39 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากการเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้น ประกอบกับรายได้รวมเติบโต มาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมจำนวน 246.99 ล้านบาท และ 60.97 ล้านบาทตามลำดับ
“ประเด็นสำคัญคือ รายได้จากการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการปล่อยสินเชื่อจำนวน 74.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.97 ล้านบาท หรือ 448.64% เป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น โดยยอดลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และ 2564 อยู่ที่ 647.42 ล้านบาท และ 338.6 ล้านบาทตามลำดับ” นายสุขสันต์ กล่าว
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นปันผลและเงินสด โดยกำหนดอัตราการจ่ายหุ้นปันผล 50 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล โดยคิดเป็นการจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0100000 บาทต่อหุ้น และกำหนดอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.0011111 บาทต่อหุ้น อัตราการจ่ายปันผลรวม 0.0111111 บาทต่อหุ้น โดยกำหนด XD วันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งกำหนดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 26 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566
“ปี 2565 CHAYO ประสบความสำเร็จในการซื้อหนี้มาบริหารเพิ่ม โดยสามารถซื้อหนี้หรือสินทรัพย์ด้อยคุณภาพกว่า 12,436 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ สิ้นปี 2565 CHAYO และ Chayo JV บริหารหนี้อยู่ที่ประมาณ 83,467 ล้านบาท” นายสุขสันต์ กล่าว
นายสุขสันต์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อแตะระดับ 100,000 ล้านบาท ใน 1-2 ปีข้างหน้า ขณะที่รายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 25% ต่อปี โดยจะได้รับแรงส่งจากสถานการณ์หนี้เสียที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าสถาบันการเงินทั้ง Bank และ Non-Bank จะมีการทยอยขายหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งคาดว่าจะมากกว่าปีก่อน ขณะที่ CHAYO วางแผนที่จะใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท (รวม Chayo JV) ในการซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มเติมในปี 2566 นี้ ทั้งนี้ไม่รวมแผนการร่วมทุน (JV) กับธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ เริ่มต้นปี 2566 ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ปรากฏว่ามีมูลหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 30,000 – 40,000 ล้านบาทออกระบบเพื่อเริ่มประมูลขายแล้ว โดยเป็นมูลหนี้ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทางบริษัทฯ ก็ได้ชนะการประมูลและได้หนี้เสียมาบริหารเพิ่มเติมแล้วบางส่วน
“ปีนี้บริษัทฯ วางงบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารในพอร์ตซึ่งคาดการณ์จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000-16,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้พอร์ตมูลหนี้คงค้าง ณ สิ้นปี 2566 จะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ CHAYO อยู่ระหว่างการหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งที่เป็นธุรกิจใกล้เคียงกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ และธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจหลัก โดยคาดว่าไม่เกินกลางปีนี้จะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 ดีล” นายสุขสันต์ กล่าว