นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกโดยฉพาะในเซ็กเมนต์ Campus Condo คาดว่าความต้องการของผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัว เนื่องจากเป็นช่วงที่สถาบันการศึกษาต่างๆ เปิดภาคเรียนใหม่ในปี 2566 บริษัทฯ จึงเดินหน้าตามยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตแบบนิวไฮ โดยไตรมาสแรกรุกเปิดตัวแบรนด์ KAVE บนทำเลศักยภาพเพิ่ม 2 โครงการใหญ่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,650 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (KAVE Town Island) จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,150 ล้านบาท โครงการสุดฮอตเฟสสุดท้ายของ KAVE Town ข้าง ม.กรุงเทพ และ 2.โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา (KAVE Pop Salaya) ติดถนนใหญ่ใกล้ ม.มหิดล ศาลายา จำนวน 237 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
โครงการ เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (KAVE Town Island) อยู่ใกล้ ม.กรุงเทพ-รังสิต โดยเป็นเฟสสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดบนเนื้อที่กว่า 17-11-77.8 ไร่ พัฒนาเป็นโครงการ Low Rise Condominium 7 ชั้น ที่ถูกออกแบบดีไซน์ให้เจเนอเรชั่น Z เต็มเปี่ยมด้วยความสนุกตลอด 365 วัน จนอยากชวนทุกคนมา…. ติดเกาะ ด้วยลากูนที่มาพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ จากุซซี่ในน้ำ และม่านน้ำตก พร้อมเปิดพื้นที่ Co Working บริเวณ Sunshine Tower และเติมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 8,500 ตร.ม. ด้วย Facility มากกว่า 50 รายการ ฟังก์ชันของห้องออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ชาว KAVE โดยมีให้เลือกหลากหลาย พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 22.20 – 39.20 ตร.ม. โดดเด่นด้วยดีไซน์ Smart Living ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ผสานกับระบบ Smart Home Automation ระบบลิฟต์ล็อกทุกชั้น พร้อมติดตั้งระบบ EV Charger รองรับรถไฟฟ้า โดยจะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มีนาคม 2566 สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท** คลิ๊ก : https://bit.ly/3Y1UDlg หรือ Add Line : @kavetownisland หรือ https://lin.ee/yD7RFFV
และเร็วๆ นี้เตรียมพบกับโครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา (KAVE POP ME UP) ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่ ศาลายา นครชัยศรี ใกล้ ม.มหิดล แค่ 10 นาที บนเนื้อที่กว่า 2-1-66.4 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมที่ดีไซน์ภายใต้แนวคิด ‘POP ME UP เป็นตัวเองให้โลกเห็น ป๊อป..ความเป็นตัวคุณ อัพ..ตัวตนให้โดดเด่น ชัดเจนกว่าใคร’ ที่มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางให้วัยมันส์ได้สนุกได้ไม่ซ้ำ ด้วย Rock Climbing กิจกรรมแอดเวนเจอร์ สำหรับตัวตึงเกมเมอร์ E-spirts Room หรือสายปาร์ตี้ด้วย Co-Kitchen และหนอนหนังสือกับ E-Library ปิดท้ายด้วย Music Studio ออกแบบฟังก์ชันที่ใหญ่เพดานสูงโปร่ง 2.7 เมตร เพิ่มพื้นที่ห้องให้กว้างสำหรับเหมาะกับนักสะสม มาพร้อมห้องครัวปิด ไม่แออัดแน่นอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 23.10 – 35.80 ตร.ม. ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท** คลิ๊ก : http://bit.ly/3Zs7YE7 หรือ Add Line : https://lin.ee/Upkx2Gf ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
“KAVE ถือเป็นแบรนด์คอนโดฯ ที่ครองใจกลุ่มเจเนอเรชั่น Z อย่างต่อเนื่อง ด้วยการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ และมอบ Facility ได้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายที่ ASW มอบให้กับครอบครัว KAVE ได้ร่วมสนุกทั้งกิจกรรมทางด้านกีฬา ดนตรี ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ ที่โดนใจอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่วนในด้านการลงทุน นับว่าแบรนด์ KAVE เป็นแบรนด์ที่ให้อัตราผลตอบแทน (Yield) ที่สูง โดยที่ผ่านมาเฉลี่ยสูงถึงกว่า 8-10% จึงทำให้แบรนด์ KAVE เป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่น และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนด้วยดีเสมอมา” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวว่า การเปิดตัวแบรนด์ KAVE เพิ่มเติมอีก 2 โครงการบนย่านทำเลทองในช่วงไตรมาสแรก เพื่อตอบสนองดีมานด์ช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งพบว่าในย่านศาลายา และบริเวณใกล้เคียงโครงการ ระแวกดังกล่าวมีจำนวนนักศึกษาอยู่ทั้งสิ้นกว่า 32,200 คน ส่วนย่านรังสิต มีนักศึกษากว่า 25,000 คน นับว่าเป็นทำเลที่มีดีมานด์สูงจากกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัย และเพื่อลงทุนในอสังหาฯ จึงมั่นใจว่าแคมปัสคอนโดฯ ทั้ง 2 โครงการฯ จะช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทฯ ทั้งปีแตะ 15,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย และเตรียมสร้างเซอร์ไพรส์กับการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเจาะกลุ่มนักศึกษาและนักลงทุน
ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 47 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 49,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 34 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 13 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 11,400 ล้านบาท
Post Views: 157