Harley-Davidson เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ขนทัพ รถมอเตอร์ไซค์ ลุยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
Harley-Davidson เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ด้วยการขนทัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่
ภายในบูธพบกับไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิ
และรุ่น CVO™ Anniversary รวมถึง ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ปี 2023 ได้แก่ รุ่น Breakout® รถตระกูลครุยเซอร์กั
เสริมทัพด้วยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Carryover ในโครงสีใหม่ ได้แก่ รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Nightster™ รุ่น Sportster S รุ่น Road Glide® ST และรุ่น Pan America™ 1250 Special โดยรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นปี 2023 เปิดจำหน่ายราคาเริ่มต้นที่ 658,000 บาท
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน โดดเด่นและเปล่งประกายด้วยสี Heirloom
โดยได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ CVO™ Road Glide Limited Anniversary รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน ระดับซุปเปอร์พรีเมียม เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปีแห่งการสร้างสรรค์ พร้อมการนำเสนอโครงสีที่ซับซ้อนที่สุดจาก Harley-Davidson
เริ่มจากตัวพื้นสีดำ Anniversary Black ที่จะถูกพาดทับด้วยแผงสีแดง Heirloom Red ตกแต่งลายเส้นด้วยสีแดงสด และฝีมือการวาดลายหยักสีทองปิดท้าย อีกทั้งยังมีลูกเล่นที่ซ่อนไว้เพื่อเพิ่มความพิเศษให้แผงตัวรถดูเหมือนส่วนหัวและปีกของนกอินทรีที่กำลังโบยบิน
สำหรับ เฉดสีพิเศษฉลองครอบรอบ 120 ปี เป็นการเน้นย้ำถึงความเชี่ยวชาญด้านสุนทรียภาพและการคงรักษาความคลาสสิกของ Harley-Davidson พร้อมวางจำหน่ายในรูปแบบที่แตกต่างกัน และนำเสนอรุ่นลิมิเตดเพิ่มเติม โดยการผสมผสานระหว่างสีและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตัวรถประกอบด้วยการใช้โครงสีแบบคลาสสิก พร้อมสีพื้นแดงมันวาว Heirloom Red ตัวรถถูกตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดงสดและแต่งเติมความเข้มด้วยสี Midnight Crimson แบบไล่เฉดสี และรายละเอียดพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ ตรานกอินทรีสีทองบนตัวถังในสไตล์ Art Deco ที่หุ้มเบาะนั่งพร้อมกรอบสีแดงและโลโก้ Harley-Davidson ที่ปักด้วยด้ายสีทอง และส่วนเครื่องยนต์ที่มีสีแดงแบบไล่เฉดสี
การกลับมาอีกครั้งของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout
รุ่น Breakout กลับมาอีกครั้งในไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ที่เปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ เพิ่มความดุดันของเครื่องยนต์และปรับโฉมไฟหน้าแบบใหม่ ให้รับกับรูปทรงรถที่ยาวและเพรียว ขับเคลื่อนเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 117 แบบ V-Twin ด้วยแรงบิดเต็มกำลัง และระบบส่งกำลังของ Harley-Davidson ที่ติดตั้งจากโรงงาน ส่งพลังให้ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout พร้อมที่จะสะกดทุกสายตาบนท้องถนน
แชสซีของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Softail® ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของท้ายรถอันคลาสสิก และประสิทธิภาพการขับขี่พร้อมด้วยการควบคุมที่ทันสมัยไว้ และสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout ถูกรังสรรค์มาเพื่อเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่สะกดทุกสายตาบนถนนด้วยสไตล์และขุมพลังของตัวรถเอง
ตื่นตาตื่นใจกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Nightster Special ในรูปแบบใหม่
รถมอเตอร์ไซค์น้ำหนักปานกลาง (middle-weight) โฉมใหม่ กับการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ Nightster ด้วยความลงตัวด้านสไตล์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่เหนือชั้นขึ้น
ขับเคลื่อนอย่างเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์ Revolution® Max 975T แบบ V Twin ที่ระบายความร้อนด้วยของเหลว ถูกปรับแรงบิดให้มีจำนวนรอบต่ำ เพื่อลดน้ำหนักรวมของตัวรถ โดยน้ำหนักของเครื่องยนต์จะผนวกรวมกับแชสซีช่วงกลาง
เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) และระบบควบคุมการยึดเกาะบนถนน (Traction Control)
ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cruise Control) จะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy รุ่น Fat Bob รุ่น Breakout และรุ่น Low Rider S ในขณะเดียวกัน ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบพื้นฐาน (Cruise Control) ยังคงเป็นฟีเจอร์สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider ST รุ่น Heritage Classic และรุ่น Sport Glide
สำหรับระบบควบคุมการยึดเกาะบนถนน (Traction Control) จะเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout, Low Rider S และ รุ่น Low Rider ST ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันรอบการหมุนของล้อรถที่มากเกินไปภายใต้การเคลื่อนตัวที่เร็ว ผู้ขับขี่สามารถปิดระบบควบคุมการยึดเกาะบนถนน โดยกดปุ่มที่อยู่บริเวณแฮนด์ควบคุม
งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2566 กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี โดย Harley-Davidson จะอยู่ที่บูธหมายเลข M3