“ KTMS ” สบช่องปี 2025 เล็งเปิดหน่วยไตเทียมครบ 40-50 หน่วย – เครื่องไตเทียม 400-500 เครื่อง ประเดิมเกมรุกปีนี้ ลุยเปิดสาขาใหม่ 14 แห่งทั่วประเทศ – เป้ารายได้โตแตะ 500 ล้านบาท กรุงเทพฯ – บมจ. เคที เมดิคอล เซอร์วิส “KTMS” ประกาศเดินเกมรุก ภายในปี 2025 ปูพรมขยายหน่วยไตเทียม 40-50 หน่วย และมีเครื่องไตเทียม 400-500 เครื่อง
พร้อมประเดิมปีนี้ จ่อเปิดสาขาใหม่ 14 แห่งทั่วประเทศ ปั้นรายได้ปีแตะระดับ 500 ล้านบาท นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือKTMS เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับปี 2023-2025 โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดหน่วยไตเทียม 40-50 หน่วย และคาดว่าจะมีเครื่องไตเทียม 400-500 เครื่อง ภายในปี 2025
พร้อมเตรียมจัดตั้งศูนย์ Medical Care and Technical School เพื่อผลิตบุคลากรเฉพาะทางด้านไตเทียม และบุคลากรด้านวิศวกรรม ให้สอดรับกับแผนการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 14 แห่ง โดยจะเป็นคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (Stand-Alone) 6 สาขา และเป็นศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาลรัฐบาล (outsource) จำนวน 8 สาขา
ส่งผลให้จะมีเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้นกว่า 100 เครื่อง ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายหน่วยให้บริการผู้ป่วยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการให้บริการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้บริษัทฯยังตั้งเป้าสู่การเป็น Neutral For Carbon Footprint
ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร “ภาพรวมอุตสาหกรรมฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในปี2566 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เหมือนกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
โดยในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนคนไข้เข้ารับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เพิ่มขึ้นประมาณ 15% ต่อปี ซึ่งเชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการจะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงทำให้จำนวนผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าวจะทยอยเข้ารับการรักษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยของจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
ย่อมส่งผลเชิงบวกต่อการเข้ารับการบริการด้านการรักษาภายใต้ KTMS และจากอดีตที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ระดับ 30% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม ดังนั้นจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปีนี้ บริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้รวมที่ระดับเกินกว่า 500 ล้านบาท” ส่วนแผนลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น
คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทำเลและหาซื้อที่ดิน ทั้งนี้หากโรงงานแล้วเสร็จจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3-4 ล้านแกลลอนต่อปี ส่งผลให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว จากปัจจุบันมีกำลังกา ผลิต 900,000 แกลลอนต่อปี และจากแผนขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ มีแนวโน้มแตะระดับ 500 ล้านบาท
ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 378.44 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 21.10 ล้านบาท สำหรับอัตราการเติบโตในปีนี้จะผ่านการรับรู้รายได้ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจการการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท“บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด” 2.กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดน้ำเสีย สถานพยาบาล ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบ ภายใต้บริษัทย่อย “เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น”
และ 3. กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ – สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ ภายใต้บริษัทย่อย “เมดิคอล วิชั่น” “ในวันที่ 26 เมษายนนี้ บริษัทฯเตรียมนำมติเสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.65) ในอัตราหุ้นละ 0.0327 บาทต่อหุ้น โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)
วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 3 พฤษภาคม 2566 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566” อย่างไรก็ตาม จากแผนการขยายธุรกิจ ดังกล่าว ส่งผลให้อัตราการเติบโตของKTMS ในปีนี้ ขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยสัดส่วนรายได้หลักจะมาจากธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ประมาณ 75%
และจะมาจากบริษัทย่อย 3 บริษัท ที่ประมาณ 25% ขณะเดียวกันการมีสาขาในรูปแบบคลินิกเพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้ง คลินิกไม่ต้องมีการเข้าประมูลในทุก ๆ ปี เหมือนศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาล ซึ่งสะท้อนถึงความยั่งยืน ของKTMS ในอนาคต
ยักษ์ลงทุนhttps://www.yaklongtun.com/