KTMS กวาดรายได้ Q1/66 โต 14.82% เร่ง เปิดสาขาใหม่ 5-11 แห่ง – เครื่องไตเทียม 86-106 เครื่อง ปั้นรายได้ทั้งปีแตะ 500 ล้านบาท
บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส “KTMS” โชว์รายได้ไตรมาส 1/2566 แตะ 103.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.82 ขณะที่กำไรสุทธิ 2.83 ล้านบาท ด้าน CEO “กาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา” ประกาศเดินเกมรุก เปิดสาขาใหม่ เพิ่มอีก 5-11 แห่ง – เครื่องไตเทียม 86-106 เครื่อง ตอกย้ำรายได้ทั้งปีส่อแววแตะ 500 ล้านบาท
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจรอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีหน่วยไตเทียมจำนวน 23 แห่ง และมีจำนวนเครื่องไตเทียม 283 เครื่อง
ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แห่ง ภาคตะวันตก 2 แห่ง ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคตะวันออก 2 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง
สะท้อนให้ตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 103.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.82 จากปีก่อนที่มีรายได้ 89.92 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 2.83 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้รายได้หลักมาจาก กลุ่มธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท “บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส มีรายได้ 80.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.32 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 (YoY) เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดน้ำเสีย สถานพยาบาล ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบ ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“IRV”) มีรายได้ 19.69 ล้านบาท ลดลง 0.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.06 เมื่อเทียบจากYoY
จากการรับรู้รายได้จากการให้บริการใน 3 ส่วน คือ 1.) รายได้จากการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยา ไตเทียมเพิ่มขึ้นจำนวน 0.83 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.76 เมื่อเทียบกับYoY จากคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
2.) รายได้จากบริการออกแบบติดตั้งและบริการดูแลบำรุงรักษาระบบน้ำให้บริสุทธิ์ ลดลงร้อยละ 1.02 เมื่อเทียบกับYoY จากมูลค่างานโครงการระบบน้ำที่ลดลงจากปีก่อน
และ 3.) รายได้จากจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลศูนย์ไตเทียม ลดลงร้อยละ 37.25 เมื่อเทียบกับYoY เป็นผลจากการขายอุปกรณ์การแพทย์ที่ลดลงจากปีก่อน
กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ – ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (“MV”) มีรายได้ 2.73 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 30.71 เมื่อเทียบกับYoY เนื่องจากงานโครงการติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ที่ได้รับในปี 2566 มีมูลค่าน้อยกว่างานโครงการในปี 2565
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTMS ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการขยายธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ว่า บริษัทฯเดินเกมรุกด้านการขยายสาขาเพิ่ม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้า เปิดสาขาใหม่ เพิ่มรวม 5-11 แห่ง
ขณะที่เครื่องไตเทียมตั้งเป้าเพิ่ม 86-106 เครื่อง โดยแบ่งเป็นแผนการขยายภายใต้ KTMS ประมาณ 4 – 9 แห่ง ขณะที่เครื่องไตเทียมประมาณ 70 – 82 เครื่อง
และแผนขยายให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ทั้งในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล ภายใต้ บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด (“NEP”) ประมาณ 1 – 2 แห่ง และซื้อเครื่องไตเทียม ประมาณ 16 – 24 เครื่อง
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการของ KTMS ให้สามารถจะดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึงและครอบคลุมทั่วทั้งประเทศมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการตอกย้ำหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) ในอันดับต้นๆ ของประเทศ
โดยล่าสุด บริษัทฯ จะเริ่มทยอยเปิดสาขา 5 สาขาโดยปักหมุด ที่จังหวัด ตาก พัทลุง สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น และประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ บริษัทฯ เดินหน้ารับงานติดตั้งระบบน้ำ ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“IRV”) ซึ่งปัจจุบัน IRV ได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 6 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (“MV”) ล่าสุด MV ได้รับงานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ แล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 16.05 ล้าน
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถดำเนินการติดตั้งทั้ง 2โปรเจคทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ปี 2566 ดังนั้นจากแผนการขับเคลื่อนธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้แตะ 500 ล้านบาท