“เพชรศรีวิชัยฯ” แต่งตัวเป็นบริษัทมหาชน ก่อนลุย SET โชว์รายได้ปี 65 กว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (PCE) (มหาชน) ผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจร เปิดเผยว่า
ขณะนี้บริษัทได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเรียบร้อยแล้ว เพื่อยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากลและการเติบโตอย่างยั่งยืน ให้สอดคล้องกับแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนับเป็นอีกก้าวที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อม และศักยภาพของ PCE ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมปาล์มครบวงจรในอนาคต
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 32,6771 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 214 ล้านบาท โดยจะเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ให้มีมาตรฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายฐานลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ ควบคู่ไปกับการบริหารงานด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ด้วยการบริการที่ครบวงจรและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ตลอดจนวางรากฐานและปรับโครงสร้างธุรกิจให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของสำนักงานก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ภายใต้กลุ่ม PCE ประกอบด้วย บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันพืชสำหรับการบริโภค ภายใต้ตราสินค้า “รินทิพย์” โดยโรงงานรีไฟน์น้ำมันปาล์ม สามารถผลิตได้ 1,800 ตัน/วัน
แบ่งเป็นน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภคกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปได้วันละ 1,000 ตัน และสำหรับผลิตเป็น B100 เพื่อเป็นส่วนผสมในน้ำมันดีเซลได้อีก 1.2 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนโรงงานสกัดผลปาล์มที่รับซื้อจากเกษตรกรสามารถผลิตได้อีก 1,800 ตันต่อวัน /หรือปีละไม่ต่ำกว่า 500,000 ตัน
บริษัท ปาโก้เทรดดิ้ง จำกัด ประกอบธุรกิจซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมล็ดในปาล์ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากปาล์ม โดยจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีปริมาณและมูลค่าการซื้อขายและส่งออกเป็นอันดับต้นๆของประเทศ
บริษัท เพชรศรีวิชัย จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศซึ่งมีรถให้บริการมากกว่า 150 คัน และขนส่งน้ำมันปาล์ม ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 800,000 ตัน นอกจากนี้ยังมีการขนส่งสินค้าแห้งและอื่นๆตลอดทั้งปี
บริษัท พี.ซี. มารีน (1992) จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีขนาดเรือ 2,000 – 2,500 ตัน ซึ่งสามารถขนส่งได้ทั้งของแห้งและของเหลว รวม 15 ลำ โดยขนส่งสินค้าได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตัน
บริษัท พี.เค. มารีน เทรดดิ้ง จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ มีพื้นให้บริการกว่า 100,000 ตร.ม. และมีคลังน้ำมันที่สามารถรองรับปริมาณได้ถึง 240,000 ตัน โดยมีท่าเทียบเรือทั้งในจังหวัด
สุราษฎร์ธานีและจังวัดฉะเชิงเทรา (อ.บางปะกง)