MFC เปิดตัวกองทุน ‘MDSHARC1YD’ เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ มุ่งเน้นลดความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจาก ดัชนี Nikkei 225 ทั้งขาขึ้นและขาลง เปิดขายครั้งเดียวช่วง IPO 18-21 ก.ค นี้
นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า “บริษัทฯ พร้อมเปิดขาย Complex Structured Return กองใหม่ MDSHARC1YD ซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจ ด้วยการมุ่งเน้นลดความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น
โดยลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่เสนอขายในประเทศ ประกอบกับโอกาสสร้างผลตอบแทนจากสัญญาออปชั่น หรือวอร์แรนท์ ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี Nikkei 225 ซึ่งสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่ม จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีได้ทั้งช่วงตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง”
สำหรับลักษณะการลงทุนของกองทุน MDSHARC1YD จะแบ่งเงินต้นออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 จำนวนเงินลงทุน 98-99% ของมูลค่าทรัพย์สิน นำไปลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในประเทศ เช่น ตราสารภาครัฐ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100% ของเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อครบอายุโครงการ ซึ่งจะเป็นส่วนลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น
ส่วนที่ 2 จำนวนเงินลงทุน 1-2% ของมูลค่าทรัพย์สิน นำไปลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์ซึ่งมีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนแบบ Dual Shark Fin ตามการเคลื่อนไหวของราคาดัชนีNikkei 225 ที่ปรับเพิ่มขึ้น ไม่เกิน 15% และปรับลดลงไม่เกิน -20% เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา ทั้งนี้กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
นายธนโชติ กล่าวต่อว่า “หุ้นญี่ปุ่นถือเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนได้น่าสนใจในปีนี้ จึงมีกระแสเงินลงทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงอยู่ในช่วง PE Expansion พร้อมทั้ง EPS Growth ปรับตัวขึ้นต่อ ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ดำเนินนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการลดระดับ Monetary Easing สอดรับกับเงินเฟ้อที่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญต่อจากนี้”
ทั้งนี้ กองทุน MDSHARC1YD เป็นกองทุนรวมผสมที่ลงทุนแบบมีความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ ความเสี่ยงระดับ 5 ขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกอยู่ที่ 1,000 บาท เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวในช่วง IPO ตั้งแต่วันที่ 18-21กรกฎาคม 2566
โดยผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปี และเมื่อครบอายุโครงการจะทำการ Auto-Redeem เข้าบัญชีธนาคารของผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ ในฐานะตัวแทนผู้จำหน่ายหลัก พร้อมเปิดให้นักลงทุนรายใหญ่เข้าซื้อกองทุน MDSHARC1YD