ก.ล.ต. เปิดตัวโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” ชวนผู้ประกอบธุรกิจฯ ผนึกกำลังเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้คนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ริเริ่มโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565 – 2570 ของกระทรวงการคลัง
พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมผนึกกำลังเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะในด้านการเงินการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชน
ตามที่กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565 – 2570 เพื่อเป็นกรอบนโยบายและกลไกบูรณาการ การดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประเทศไทย
โดยมีคณะกรรมการการพัฒนาทักษะทางการเงิน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ อย่างบูรณาการ
ก.ล.ต. ในฐานะกรรมการ คณะกรรมการการพัฒนาทักษะทางการเงิน จึงริเริ่มโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” โดยเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เช่น ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเรียกว่า “ผู้ประกอบธุรกิจฯ” มาร่วมผนึกกำลังในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะด้านการเงินการลงทุน (Financial Literacy)
ให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชน ให้สามารถบริหารจัดการการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสต่อยอดในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้งอกเงย มีสุขภาพทางการเงินที่ดีอย่างยั่งยืน และมีรู้เท่าทันภัยกลโกงรูปแบบต่าง ๆ
“ที่ผ่านมา ผู้ประกอบธุรกิจฯ ในตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนไม่น้อยได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมเกี่ยวกับการให้ความรู้ทางการเงินต่าง ๆ แก่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินการของ ก.ล.ต. ที่ส่งเสริมในเรื่องดังกล่าว
พร้อมทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชนมาโดยตลอด ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจฯ มาร่วมกันผนึกกำลังเพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ด้านการเงินการลงทุนแก่ผู้ลงทุนและประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนที่ดีในตลาดทุน” นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่เข้าร่วมโครงการสามารถจัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชาชนหรือกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ โดยเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่แล้วหรือริเริ่มขึ้นใหม่ก็ได้
สำหรับผู้ที่ดำเนินกิจกรรมตามแนวทางที่กำหนดจะได้รับใบประกาศเกียรติคุณจาก ก.ล.ต. ในฐานะองค์กรที่สร้างคุณค่าในด้านการให้ความรู้แก่สังคม และประกาศรายชื่อผ่านสื่อของ ก.ล.ต.