YLG เผยตลาดทองคำ รอลุ้นผลประชุมเฟดปลายก.ย. มั่นใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย
ชี้หากดอกเบี้ยนิ่งตามคาดภายในปีนี้ทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่
วายแอลจีแนะจับตาราคาทองคำหลังการประชุมเฟดปลายเดือน ก.ย. หลายเสียงคาดการณ์เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบสุดท้าย ชี้หากดอกเบี้ยหมดยุคขาขึ้นเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ หลังรับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง
มองปลายปีนี้มีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ เผยปัจจัยบวกสนับสนุนธนาคารกลางหลายประเทศยังคงตุนทองคำต่อเนื่อง พร้อมแนะระยะสั้นก่อนการประชุมเฟดสามารถเก็งกำไรทองคำได้ตามกรอบแนวรับ 1,870-1,851 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
และกรอบแนวต้าน 1,931-1,947 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ล่าสุดออกโปรโมชัน ลดการวางเงินประกันสำหรับการซื้อขายทองออนไลน์ เหลือเพียง 200,000 บาท และเพิ่มการซื้อขายทองคำจากเดิม 4 กิโลกรัม เป็น 5 กิโลกรัม หรือเพิ่มเป็น 300 ร้อยบาททองคำ จากปกติ 240 บาททองคำ ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. – 31 ต.ค. 2566
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ทิศทางทองคำในช่วงนี้ยังคงเป็นลักษณะแกว่งตัวลง เนื่องจากในช่วงนี้ตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือน ก.ย. นี้
ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย โดยก่อนหน้านี้ประธานเฟดกล่าวสรุปในการประชุม Dot Plot ว่าดอกเบี้ยควรจะขึ้นไปอยู่ที่ 5.6% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 5.25-5.5% ดังนั้น
จึงมีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 1 ครั้ง อย่างไรก็ดีผลสำรวจ FED Watch Tool ของ CME Group พบว่านักวิเคราะห์เกือบ 90% ให้น้ำหนักว่าดอกเบี้ยที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 5.5 % จึงมองว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยอีกแล้ว รวมถึงอัตราดอกเบี้ยอาจจะลดลงในช่วงกลางปีหน้า
อย่างไรก็ดีหากผลการประชุมออกมาตามคาดและอัตราดอกเบี้ยเริ่มนิ่งก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาทองคำแกว่งตัวเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
โดยหากดอกเบี้ยเริ่มนิ่งก็มีโอกาสที่ภายในช่วงปลายปีทองคำจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ทั้งนี้ในระหว่างที่ตลาดเฝ้ารอผลการประชุมเฟดนั้น แนะนำว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้นในทองคำได้
โดยมองจังหวะการเข้าซื้อแถวโซนแนวรับ 1,870-1,851 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และหาจังหวะทำกำไรที่โซนแนวต้าน 1,931-1,947 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศมองเคลื่อนไหวในกรอบ
แนวรับด้านล่าง 31,000-30,650 บาทต่อบาททองคำ ส่วนกรอบแนวต้านประเมินไว้ที่ 32,000-32,250 (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.97 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 23 ส.ค. 2023 เวลา 14:00น.)
ทั้งนี้แม้ราคาทองคำในช่วงนี้จะแกว่งตัวลงแต่ยังมีปัจจัยบวกจากฝั่งของธนาคารกลางในหลายประเทศที่ยังคงเข้าซื้อทองคำสะสมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศที่ยังมีทองคำเป็นทุนสำรองปริมาณไม่มาก
หรือประเทศที่ถูกแทรกแซงจากสหรัฐฯ อาทิ รัสเซีย รวมถึงประเทศที่ถือดอลลาร์เป็นทุนสำรองปริมาณมาก และต้องการจะลดปริมาณการถือครองดอลลาร์ลง เช่น จีน เป็นต้น