บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจัดตั้งกองทุน Target Net Zero ในรูปแบบกองทุนเปิดทั่วไป ภายใต้ชื่อ K-TNZ-A(A) เน้นสะสมผลตอบแทนเสริมพอร์ตลงทุนเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนหุ้น ESG ขนาดใหญ่ในดัชนี SET100 ที่มีเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ พร้อมชู Lombard Odier เป็นพันธมิตรที่ปรึกษา นำโมเดลมาปรับใช้ในกระบวนการคัดเลือกหุ้นและบริหารจัดการกองทุน
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA, Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ บลจ.กสิกรไทย ได้เปิดเสนอขายกองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ K-TNZ-ThaiESG ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดยการันตีได้จากยอดขายที่สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ด้วยมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท (ที่มา: Morningstar ณ 29 ก.พ. 67)
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้วยการจัดตั้งกองทุนในรูปแบบกองทุนเปิดทั่วไป ชื่อ กองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย-A ชนิดสะสมมูลค่า หรือ K-TNZ-A(A) ซึ่งเปิดเสนอขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับ กองทุน K-TNZ-A(A) มีนโยบายการลงทุนเดียวกับกองทุน K-TNZ-ThaiESG นั่นคือ เน้นลงทุนหุ้น ESG ขนาดใหญ่ในดัชนี SET100 โดยให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีส่วนช่วยและสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการแบบเชิงรับ (Passive Management) เพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด SET100 TRI
อย่างไรก็ดี จากการที่กองทุน K-TNZ-A(A) ให้น้ำหนักในหุ้นที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ชัดเจน ส่งผลให้พอร์ตลงทุนมีค่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่ต่ำกว่าดัชนี SET100
กองทุนK-TNZ-A(A) เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เกิดจากความร่วมมือด้านการลงทุนเพื่อความยั่งยืนระหว่าง บลจ.กสิกรไทย กับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) ในฐานะพันธมิตรที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนมาอย่างยาวนาน
โดย บลจ.กสิกรไทย ได้นำโมเดลของ Lombard Odier ซึ่งได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มาปรับใช้ในกระบวนการคัดเลือกหุ้นและบริหารจัดการกองทุน K-TNZ-A(A)
“บลจ.กสิกรไทย ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืนมาเป็นเวลากว่า 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยนำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาปรับใช้ในกระบวนการลงทุน และเป็นบลจ.แรกของไทยที่เข้าร่วมลงนาม UN-supported Principles for Responsible Investment (UNPRI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (United Nations)
อีกทั้งกองทุน ESG ของ บลจ.กสิกรไทย ยังเป็นกองทุนแรกในอุตสาหกรรมที่ยื่นขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund)
โดยล่าสุดกองทุนK-TNZ-A(A) ได้รับความเห็นชอบให้เป็น SRI Fund ส่งผลให้ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มี SRI Fund รวม 7 กองทุน และครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท (ที่มา: สำนักงาน ก.ล.ต. ณ 31 ม.ค. 67)” นางสาวธิดาศิริกล่าว
นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกจะส่งผลกระทบที่รุนแรงเป็นวงกว้างต่อทั้งคน สัตว์ และธรรมชาติ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่มากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส จะเป็นจุดหายนะอันนำมาซึ่งความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ และเกินกว่าจะแก้ไขให้กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมดังเดิมได้
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ขอเชิญชวนให้ผู้ลงทุนตระหนักและให้การสนับสนุนบริษัทที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ เพื่อลูกหลานของเราจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างปลอดภัยในวันข้างหน้า
วันนี้เราจึงควรต้องหันมาใส่ใจอุณหภูมิโลกควบคู่ไปกับการลงทุนผ่านกองทุนK-TNZ-A(A) เริ่มต้นเพียง 500 บาท ซื้อง่ายอย่างปลอดภัยผ่าน App K PLUS และ K-My Funds หรือ ผ่านทางธนาคารกสิกรไทยและผู้แทนสนับสนุนการขาย
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกช่องทางของกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่ www.kasikornasset.com