“โกลเบล็ก” คัดหุ้นเด่นเติบโตดีรับส่งออกโต
บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway ออกข้าง รับการรายงานตัวเลข PCE ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4% ตามคาด จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,360-1,410 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้อานิสงส์จากตัวเลขการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โต 3.6%YoY ได้แก่ NER-STA-TU-ITC-AAI-HANA–KCE
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วน (PCE) ปรับตัวขึ้น 2.5%YoY ในเดือนก.พ.
สอดคล้องคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และคาดกาณ์ของ FED หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนม.ค. ขณะที่จีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค. 67 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.8 จากระดับ 49.1 ในเดือนก.พ. 67 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 49.9
ส่วนปัจจัยหนุนภายในประเทศนั้น มาจากกระทรวงการคลังได้พิจารณาขยายเวลามาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาท/ลิตรที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 19 เม.ย.67 เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว
และทางกระทรวงพาณิชย์ประเมินว่าไทยจะได้รับการจัดสถานะดีขึ้นจากปี 66 ที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา (WL) ตั้งแต่ปี 60 ในการทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าซึ่งจะเผยแพร่ผลการจัดสถานะช่วงปลายเดือน เม.ย.ของทุกปี
รวมทั้ง การที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ออกมาตรการคุมเข้มการให้บริการธุรกรรม NVDR ที่ห้ามนักลงทุนไทยซื้อเพิ่มเพื่อป้องกันการปกปิดข้อมูลการถือหุ้น จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,360-1,410 จุด
ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ วันที่ 5 เม.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า วันที่ 10 เม.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และการประชุมบอร์ดดิจิทัลฯ ชุดใหญ่ สรุปรายละเอียด-เงื่อนไขเงินดิจิทัลวอลเล็ต ก่อนส่งครม.
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ (2 เม.ย.) ทาง อียู มีรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.,สหรัฐ รายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุน เวียนของแรงงาน (JOLTS)
เดือนก.พ.วันที่ 3 เมษายน ญี่ปุ่นรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค. อียูรายงานอัตราว่างงาน
เดือนก.พ. สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 4 เมษายน อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้า
เดือนก.พ. และวันที่ 5 เมษายน ญี่ปุ่นรายงานการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.พ. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ. (ประมาณการเบื้องต้น) อียูรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.พ. สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้อานิสงส์จากตัวเลขการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ NER, STA, TU, ITC, AAI, HANA และ KCE
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่าในส่วนสัปดาห์นี้ตลาดจับตาประกาศดัชนีภาคการผลิต และภาคบริการสหรัฐ รวมถึงยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน ซึ่งหากออกมาแย่กว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำโอกาสปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน 2H67 ระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับ 2,210$/oz คำแนะนำ ทยอยเข้าซื้อสะสม โดยมีแนวต้านที่ 2,275 $/Oz