‘ทริพเพิล ไอ’ โชว์ผลงานไตรมาส 2/2567 รายได้โต 7.7%เตรียมปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น พร้อมผสาน ‘ANI’ สร้างบริการใหม่ รองรับดีมานด์ขนส่งสินค้า e-Commerce จากประเทศจีนพุ่งและเข้าสู่ไฮซี ซันในครึ่งปีหลัง
‘บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์’ หรือ III ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวม 538 ล้านบาท เติบโต 7.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ธุรกิจหลัก 4 กลุ่มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง 3 ไตรมาส แม้เป็นโลว์ซีซัน
ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 102 ล้านบาท ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้าจากส่ วนแบ่งกำไรจากการลงทุนลดลง รวมครึ่งปีแรกมีรายได้ 1,038 ล้านบาท กำไรสุทธิ 219 ล้านบาท
ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่ างกาล 0.12 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลังรับปัจจัยบวกจากไฮซี ซัน ค่าระวางพุ่ง และดีมานด์สินค้า e-Commerce จากจีนทะลักเข้าไทย เดินหน้ายุทธศาสตร์ Logistics and Beyond
เตรียมผสาน ANI สร้างบริการใหม่ Cargo Airline และMultimodal HUB เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายสิ นค้าทางอากาศในภูมิภาค ขณะที่ AOTGA เปิดให้บริการ Multimodal Warehouse ตั้งแต่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้ นนำระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ทริพเพิล ไอ มีรายได้จากการขายและให้บริ การรวม 538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ที่มีรายได้ 499 ล้านบาท
เนื่องจากธุรกิจหลัก 4 กลุ่มธุรกิจ เติบโตได้ดี แม้เป็นโลว์ซีซันของธุรกิจโลจิ สติกส์ ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 102 ล้านบาท ชะลอตัวลง 11.9 % จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุ ทธิ 116 ล้านบาท เนื่องจากมีส่วนแบ่งกำไรที่ ลดลงจากธุรกิจใหม่ที่บริษัทเข้ าลงทุน
โดยผลประกอบการของ ANI ได้รับผลกระทบจากพื้นที่ ระวางสำหรับเส้นทางขนส่งต่อ (Transit) สู่ภูมิภาคยุโรป และอเมริกา ซึ่งมีความต้องการสูงแต่มีปริ มาณพื้นที่ระวางในการให้บริ การจำกัด ส่งผลทำให้เส้นทางขนส่งที่ให้ บริการเป็นส่วนใหญ่อยู่ในภูมิ ภาคเอเชียซึ่งมีอัตรากำไรต่ำกว่ าภูมิภาคยุโรป และอเมริกา
ซึ่ง ANI ได้วางแผนเพื่อเพิ่มศั กยภาพในการรองรับความต้องการที่ เกิดขึ้น โดยคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่ วงไตรมาสที่เหลือของปี นอกจากนี้ยังมีปัจจั ยมาจากผลการดำเนินงานของ AOTGA
ซึ่งเป็นผลกระทบเพียงระยะสั้ นจากการลงทุนเพิ่มทั้งด้านการพั ฒนาอุปกรณ์ต่างๆ และด้านบุคลากร เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ ยวและปริมาณเที่ยวบินที่คาดว่ าจะเพิ่มขึ้นในช่วงระ หว่ างไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ รวมไปถึงโอกาสในการขยายธุรกิ จและการให้บริการในอนาคต
ขณะที่ ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่ งปีแรก 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริ การรวม 1,038 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 878 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักของรายได้ที่เพิ่ มขึ้นมาจากการที่ธุรกิจหลัก 4 กลุ่มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกันนับจากไตรมาส 4/2566
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการขนส่งสิ นค้าทางอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจผู้ให้ บริการรับจัดการขนส่งสินค้ าทางอากาศระหว่างประเทศแบบขายส่ ง (Wholesale Freight For warder) ที่บริษัทฯ มุ่งเน้นขยายการให้บริการรับจั ดการขนส่งสินค้าแบบ Transit ในระดับภูมิภาคที่เติ บโตตามการขยายตัวของตลาดสินค้า e-Commerce จากประเทศจีน
และปริมาณความต้ องการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้ นจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 219 ล้านบาท ชะลอตัว 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่ างกาลแก่ผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมทั้งสิ้น 93,930,374.40 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มี สิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2567
นายทิพย์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานครึ่งปี หลัง 2567 มีแนวโน้มเติบโตจากครึ่งปี แรกอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งธุรกิจหลัก 4 กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการขนส่งสิ นค้าทางอากาศ (Air Freight Business) จากการรับจัดการขนส่งสินค้ าทางอากาศโดยมีประเทศไทยเป็น
ฮับของภูมิภาค
ฮับของภูมิภาค
โดยโฟกัสกลุ่มสินค้า e-Commerce และจากปัจจัยความกังวลเหตุ ความขัดแย้งในทะเลแดงที่ยังไม่ คลี่คลาย มีส่วนผลักดันให้ค่าระวางขนส่ งสินค้าทางอากาศปรับเพิ่มขึ้น ตลอดจนปัจจัยบวกจากช่วงครึ่งปี หลังที่เป็นไฮซีซัน
ดังนั้น แผนธุรกิจครึ่งปีหลั งของบริษัทฯ ยังคงเดินหน้ายุทธศาสตร์ Logistics and Beyond โดยเตรียมพัฒนา Multimodal Transportation หรือการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ เพื่อเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้ าทางอากาศในภูมิภาคที่รวบรวมสิ นค้าจากจีนและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนกระจายไปยั งประเทศอื่นๆ
ผ่านการ Synergy ระหว่างบริษัทฯ และ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้ าสายการบินในภูมิภาค เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้ าและพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าร่ วมกัน รวมถึงศูนย์กลางขนส่งสินค้ าทางรถบรรทุกเพื่อรับสินค้ าจากจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย มายังสนามบินสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทฯ จะร่วมมือกับ ANI พัฒนา Cargo Airline หรือสายการบินสำหรับขนส่งสินค้ าแบบเช่าเหมาลำ เพื่อตอบสนองดีมานด์การขนส่งสิ นค้าทางอากาศในเส้นทางที่มีอั ตราทำกำไรสูง
คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ ปลายปีนี้หรือต้นปี 2568 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ระวางสิ นค้าแบบ Transit สู่ภูมิภาคยุโรป และอเมริกา และบางเส้นทางในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีความต้องการพื้นที่ ระวางสูงแต่มีไม่เพียงพอต่ อความต้องการ และเป็นเส้นทางที่มีอั ตราทำกำไรที่ดี
ส่วนบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่บริษัทฯ ลงทุนผ่าน บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL ได้เปิดให้บริการคลังสินค้ ารองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรู ปแบบ (Multimodal Warehouse) ตั้งแต่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
บนพื้นที่เกือบ 5,000 ตารางเมตร ของศูนย์บริการศุลกากรเพื่ อกระจายสินค้า (โซน 3) ในเขตปลอดอากรของท่าอากาศยานสุ วรรณภูมิ โดย AOTGA ยังเตรียมยื่นประมูลการคัดเลื อกผู้ให้บริการภาคพื้นดิ นของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ในเร็วๆ นี้
“จากแผนธุรกิจดังกล่าวเชื่อมั่ นว่าผลประกอบการในปี 2567 จะเติบโตมากกว่า 10% โดยทริพเพิล ไอ ยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ งให้กับกลุ่มธุรกิจด้วยยุ ทธศาสตร์ Logistics and Beyond ในรูปแบบการ Synergy ระหว่างบริษัทในกลุ่ม การร่วมทุนและเข้าซื้อกิจการ
โดยเน้นพัฒนาการให้บริการโลจิ สติกส์รูปแบบใหม่ทั้ งในประเทศและภูมิภาคให้ครอบคลุ มและหลากหลาย เพื่อเป็นหนึ่งในผู้ให้บริ การโลจิสติกส์ชั้นนำในภูมิ ภาคเอเชีย” นายทิพย์กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่ มบริษัทฯ
บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III และบริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้ นนำ ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight Business) 2.กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้ าทางทะเลและทางบก (Sea Freight and Inland)
3.กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่ างประเทศ การบริหารคลังสินค้า และการกระจายสินค้า (Logistics Management) 4. กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรั บเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย (Chemical and Specialty Logistics) โดยกลุ่ม บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมากกว่า 25 ปี