PROPERTY

PROUD ใส่เกียร์เดินหน้า หลังย้ายเข้า SET ดีมานด์ต่างชาติหนุนยอดขาย-โอนพุ่ง

PROUD ใส่เกียร์เดินหน้า หลังย้ายเข้า SET ดีมานด์ต่างชาติหนุนยอดขาย-โอนพุ่ง

PROUD พร้อมลุยหลังย้ายหลักทรัพย์เข้าตลาดฯ SET ย้ำความแข็งแกร่ง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี ยึดทำเล CBD และเมืองหัวหิน ย้ำทุกโครง การที่อยู่ระหว่างขายกระแสดี ยอดปฏิเสธสินเชื่อเพียง 26%

เตรียมฉลองปิดโครงการ Nue Cross Khu Khot Station เดินหน้ากลยุทธ์การตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ชาวไทย-ต่างชาติ ควบคู่การพัฒนาธุรกิจตามแนวทาง ESG รับเทรนด์ลงทุนโลก มุ่งสู่การสร้างความยั่งยืน

ด้านผลประกอบการไตรมาส 2/2567 รายได้รวม 713  ล้านบาท กำไรสุทธิ 12 ล้านบาท โต 33% ขณะที่ ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 รายได้รวม 1,784ล้านบาท กำไรสุทธิ 89 ล้านบาท

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/2567  ปัจจัยสนับ สนุนจากความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยโครงการที่อยู่ระหว่างขาย มีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งยุโรปและเอเชีย ได้แก่ โครงการ VEHHA Hua Hin (เวหา หัวหิน) มูลค่าโครงการรวม 2,289  มียอดขายแล้ว 57% จำนวน 1,306 ล้านบาท

โครงการ ROMM Convent (รมย์ คอนแวนต์) มูลค่าโครงการรวม 4,150 มียอดขายแล้ว 58% จำนวน 2,401 ล้านบาท  โครงการ VI Ari (วี อารีย์) มูลค่าโครงการรวม 491 มียอดขายแล้ว 34% จำนวน 164 ล้านบาท  และโครงการ NUE District R9  มียอดขายแล้ว 96% จำนวน 6,350 ล้านบาท

นอกจากนี้ โครงการ Nue Cross Khu Khot Station คอนโดมิเนียม  Low Rise บนทำเลคุณภาพ บนถนนลำลูกกา มูลค่าโครงการรวม 2,115 โอนกรรมสิทธิ์เข้ามาแล้วกว่า 80%  ซึ่งถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์เร็วกว่าแผนที่กำหนด  ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันจำนวน 1,340 ล้านบาทได้ก่อนกำหนดชำระ และคาดว่าสามารถทยอยส่งมอบและปิดโครงการได้ภายในปี 2567

“ในสภาวะที่ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ความสามารถของผู้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยลดลง ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 60-70% แต่บริษัทยังคงสามารถสร้างยอดขายได้ในระดับที่ดี โดยยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทมีเพียง 26% ดีมานด์จากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการที่พักอาศัยระดับลักชัวรีปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรัสเซีย ยุโรป อเมริกา จีน ไต้หวัน และพม่า ส่งผลให้ยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์จากกลุ่มชาวต่างชาติขยายตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าตามแผนงาน หลังย้ายหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เตรียมปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดรับกับสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ในปัจจุบัน  เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดไฮเอนด์ทั้งชาวไทย-ต่างชาติเพิ่มขึ้น ควบคู่การพัฒนาองค์กรตามแนวทาง ESG  มุ่งสู่การสร้างความยั่งยืน

เป้าหมายลดคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในหุ้นของกองทุนด้านความยั่งยืน (Thai ESG) เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุนเพิ่มเติม จากกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ

ซึ่งปัจจุบันผู้ลงทุนในกองทุน ThaiESG มีสิทธิพิเศษด้านภาษีที่สามารถขอลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 300,000 บาท สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน มั่นใจศักยภาพธุรกิจ สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 รายได้รวม 1,784 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 89 ล้านบาท

ใส่ความเห็น