INSURANCE

อลิอันซ์ อยุธยา โชว์ผลงาน ผลประกอบการไตรมาสสองเติบโตแกร่งต่อเนื่อง

อลิอันซ์ อยุธยา โชว์ผลงาน ผลประกอบการไตรมาสสองเติบโตแกร่งต่อเนื่อง

อลิอันซ์ อยุธยา รายงานผลการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยไตรมาสสอง ปี 2567 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยธุรกิจประกันชีวิตสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่  (NBV) เติบโต 14% เบี้ยประกันรับรวมเติบโต 11%

ขณะที่ ธุรกิจประกันภัย สร้างเบี้ยรับรวมเติบโต 6% พร้อมผนึกพลังเดินหน้าสร้างแบรนด์แกร่ง มุ่งสร้างรายได้สมดุลจากทุกช่องทาง ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการไตรมาสสองเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 19,249 ล้านบาท เติบโต  11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโตมากถึง 28% อยู่ที่ 4,580 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 1,542 ล้านบาท ช่องทางขายผ่านธนาคาร 2,272 ล้านบาท ช่องทางขายตรง 641 ล้านบาท และ ช่องทางอื่นๆ 125 ล้านบาท

ด้าน มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย สร้างผลผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งในธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ มีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 6,073 ล้านบาท

โดยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเติบโต 6% อยู่ที่ 2,284 ล้านบาท ประกันรถยนต์เติบโต 10% เบี้ยประกันมูลค่า 1,705 ล้านบาท และประกันวินาศภัยและทรัพย์สินอื่นๆเติบโต 4% เบี้ยประกันมูลค่า 2,084 พันล้านบาท

จากตัวเลขการเติบโตในทุกธุรกิจ สะท้อนถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยทั้งด้านประกันชีวิตและประกันภัย ซึ่งจะผลักดันธุรกิจไปให้ถึงเป้าหมาย พิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวมธุรกิจประกันชีวิตที่ 4.1 หมื่นล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวมธุรกิจประกันภัยที่ 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมผลักดันให้แบรนด์อลิอันซ์ อยุธยาครองตำแหน่งผู้นำในธุรกิจประกันสุขภาพเพื่อคนไทย

ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้เช่นกัน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6.4 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น  9.1 หมื่นล้านยูโร (หรือประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7.9 พันล้านยูโร (หรือประมาณ 3.14 แสนล้านบาท)

โดยเพิ่มขึ้น 5.3 เปอร์เซ็นต์ ได้รับแรงหนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ กลุ่มประกันชีวิต/สุขภาพเติบโตในหลายภูมิภาค ในกลุ่มการจัดการสินทรัพย์ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นปัจจัยหลักของการเติบโต

ในขณะที่ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดได้รับอานิสงค์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งและการดำเนินการของหลักทรัพย์อ้างอิง มีอัตราส่วนเงินทุนของ Solvency II อยู่ที่ 206 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เทียบกับ 203 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567

อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2567 : 1 ยูโร = 39.75 บาท

ใส่ความเห็น