NEWS

บีโอไอ ผนึกกำลังพันธมิตร จัดงานใหญ่ดันไทยศูนย์กลางผลิตชิ้นส่วนอาเซียน

บีโอไอ ผนึกกำลัง สมาคมไทยซับคอน – อินฟอร์มา จัดงาน “ Mira and Subcon Thailand: The East 2024″ บูมลงทุนภาคตะวันออก ดันไทยศูนย์กลางชิ้นส่วนอาเซียน
บีโอไอ จับมือสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมด้วยเครือข่ายอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เปิดงาน “SUBCON Thailand : The East 2024” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ขนทัพเทคโนโลยีชิ้นส่วนและโซลูชันการผลิตขั้นสูง เชื่อมโอกาสและยกระดับผู้ประกอบการภาคตะวันออก โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอ นิกส์ และเครื่องจักร คาดสร้างมูลค่าเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมดันไทย “ศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน”
ปัจจุบันภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งในแง่ของการส่งออก ท่องเที่ยว ตลอดจนภาคการผลิตที่มีการเปิดโรงงานแห่งใหม่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงภาคการลงทุน โดยข้อมูลภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และมาจากอุตสาห กรรมเป้าหมาย ทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน
ด้วยโอกาสและความสำคัญดังกล่าว ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของประเทศไทย ทั้งจากสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย
ร่วมกันเปิดงาน ” Mira and Subcon Thailand: The East 2024″ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีเป้าหมายที่สำคัญในการมุ่งสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก สร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมสำคัญ ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภาคการผลิต และนำพาไทยเป็น “ศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน”
นายนฤตม์  เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะด้านการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยว จากความโดดเด่นของโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพพร้อมรองรับการลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือน้ำลึก สนามบินนานาชาติระบบโลจิสติกส์ ระบบโทรคมนาคม ไฟฟ้า ประปา และนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ ดัง    กล่าว โดยภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออก
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวน 625 โครงการ เงินลงทุนรวม 211,569 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 46 ของเงินลงทุนทั้งหมดของประเทศ นับว่าภาคตะวันออก เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนที่มีมูลค่าสูงที่สุดของประเทศไทย
โดยเฉพาะใน 3 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ ยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์เพื่อเป็นการยกระดับการลงทุนและซัพ พลายเชนในพื้นที่ภาคตะวันออก บีโอไอ จึงได้ผนึกกำลังสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์
พร้อมด้วยภาคีเครือข่าภาคอุตสาหกรรม ร่วมเปิดงาน “SUBCON Thailand : The East 2024” ระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จ.ชลบุรี
ซึ่งเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และขยายพื้นที่เป้าหมายให้ครอบคลุม 8 จังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานของอุตสาห กรรมขนาดใหญ่ประกอบกับมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ สร้างการเชื่อมโยงของอุตสาหกรรมระหว่างจังหวัด บีโอไอจึงได้ร่วมจัดงานครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ผลิตชิ้นส่วนในพื้นที่
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการภาคตะวันออกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รองรับการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา ผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน
อีกทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจแลกเปลี่ยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภาคการผลิต เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ต้องมีทั้งความ Smart และ Green
ไฮไลท์ของการจัดงานในครั้งนี้ได้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเข้าร่วม เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อรายสำคัญกว่า 100 ราย ในส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น บริษัท Isuzu, Kawasaki Motors  อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริษัท Midea, Chicony Power อุตสาหกรรม PCB เช่น บริษัท Sanmina-SCI Systems, Techman Electronic เป็นต้น
ซึ่งคาดว่าจะเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 600 คู่ และสร้างมูลค่าการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Buyers’ Village แสดงชิ้นส่วนที่ผู้ซื้อมีความต้องการจัดซื้อและจัดหาผู้รับช่วงการผลิต รวมถึงกิจกรรม Sourcing Day ที่บีโอไอ
จัดร่วมกับ บริษัท โฟตอน ซีพี มอเตอร์ จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนของผู้ผลิตรายสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งยังมีบูธให้คำปรึกษา (Industrial Clinic) และงานสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมใหม่และการนำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับมาตรฐานการผลิต
นายชนินทร์ ขาวจันทร์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ภาคตะวันออกมีนิคมอุตสาหกรรมกว่า 40 แห่ง ซึ่งทางสมาคมฯ เล็งเห็นโอกาสในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต สอดรับกับบทบาทของสมาคมฯ ที่มุ่งสนับสนุนสมาชิก
ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตให้มีพื้นที่และมีส่วนในการสนับสนุนนักลง ทุนในภาคตะวันออกในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้ในตลาดโลกโอกาสทางการค้า มองหาตลาดใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตและการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคในภูมิภาคนี้
จึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน MIRA และ SUBCON Thailand: The East 2024 โดยได้นำภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของไทยได้แสดงศักยภาพและคุณภาพของสินค้า
ทางสมาคมฯ เชื่อมั่นว่าเวทีนี้จะเป็นก้าวที่สำคัญในการวางรากฐานการยกระดับภาคอุต        สาหกรรมไทยในพื้นที่ภาคตะวันออกให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจใหม่
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า อินฟอร์มาฯ ถือเป็นแกนกลางที่สำคัญในการร่วมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนให้กับทุกภาคอุตสาหกรรม โดยการจัดงาน”Mira and SubconThailand:The East 2024″ครั้งนี้จัดขึ้นต่อเนื่อง เป็นปี   ที่ 3
โดยมีหมุดหมายที่สำคัญในการสร้างโอกาสสำคัญให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภาคตะ    วันออกได้พบปะกับกับผู้ซื้อ ผู้ผลิตและนักลงทุน พร้อมกันนี้ยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมและโซลูชั่นการผลิตชั้นสูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการนำพาไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียนในทศวรรษนี้
สำหรับงาน “MIRA and SUBCON Thailand : The East 2024” ได้จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการบำรุงรักษา รวมถึงโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ เครื่องมือกลและอุปกรณ์ และ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบชั้นนำจากภาคอุตสาหกรรม หลากหลายแบรนด์มาจัดแสดง เช่น MITUTOYO, OMRON, THAI ROKUHA และ LERTVILAI
รวมถึง MITSUBISHI ELECTRIC FACTORY AUTOMATION ที่ครั้งนี้นำเอาเทคโนโลยี Machine Tools : EDM Wire – Cut ที่โดดเด่นในด้านลดของเสียจากสายการผลิตมาจัดแสดง
ทั้งนี้ภายในงานยังนำทีมหุ่นยนต์กู้ภัย IRAP ROBOT จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับภาคอุตสาหกรรม และนวัตกรรม
หุ่นยนต์ Service Robot ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี
โดยทีมจาก สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มาจัดแสดงพร้อมเปิดเวทีแข่งขันเชื่อมโลหะ โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรการเชื่อม (WelDa) พร้อมกันนี้ยังได้รวบรวมเครือข่ายกับนักอุตสาหกรรมและพันธมิตรทางธุรกิจจากนิคมอุตสาหกรรมกว่า 43 แห่ง ครอบคลุมจังหวัดภาคตะวันออก
รวมถึงงานสัมมนาหัวข้อที่สำคัญจาก 4 เวทีหลักของงาน (MIRA Theatre / SUBCON THAILAND The East room / I- Factory Stage / Technology Presentation) ที่มีผลต่อทิศทางการผลิตในยุคเศรษฐกิจใหม่อย่าง MIRA Forum
ที่รวบรวมความร่วมมือขององค์กรพันธมิตรที่สำคัญ รวมถึงสัมมนาในหัวข้อ “กลยุทธ์ในการจัดซื้อสำหรับนักจัดซื้อยุคใหม่” และไฮไลต์สำคัญ คือ การจับคู่ทางธุรกิจซึ่งได้รับการสนับสนุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการไทย
พร้อมให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมพื้นที่ภาคตะวันออกร่วมกันในงาน “MIRA and SUBCON Thailand : The East 2024” โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 6 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมภายในงานได้ทาง www.mira-event.com

ใส่ความเห็น