NEO มุ่งสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ชู ‘บีไนซ์’ โมเดลต้นแบบบรรจุภัณฑ์เป็นมิ ตรกับสิ่งแวดล้อมวางเป้าหมายปี 2568 ใช้นวัตกรรมการผลิต rHDPE 30% ลดใช้ Virgin Plastic 80 ตันต่อปี
‘บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน)’ หรือ NEO ร่วมสร้างสรรค์อนาคตที่มั่ นคงด้านสิ่งแวดล้อม เปิดโมเดลผลิตภัณฑ์ “บีไนซ์” นำทัพใช้บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกั บสิ่งแวดล้อม ผ่านนวั ตกรรมการผลิต rHDPE
วางเป้าหมายภายในปี 2568 บรรจุภัณฑ์ครึ่งหนึ่งจะมาจากวั สดุที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล 30% ช่วยลดปริมาณการใช้ Virgin Plastic มากกว่า 80 ตันต่อปี ผุดโปรเจกต์วิจัยและพั ฒนาระยะยาว ปั้นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกเต็มรู ปแบบ ชูการดีไซน์ทันสมัยลดการใช้ พลาสติกทุกมิติ
นางสาวณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริ หารสายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ NEO) ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุ ปโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาใหญ่ ของประเทศไทย โดยปี 2565 ปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดี ยวคิดเป็นสัดส่วน 11% ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือ 2.83 ล้านตันต่อปี
โดยมีการนำขยะพลาสติกกลับไปใช้ ประโยชน์ซ้ำเพียงร้อยละ 25 หรือประมาณ 0.71 ล้านตัน (รายงานสถานการณ์มลพิ ษของประเทศไทย ปี 2565, 2566) ดังนั้น NEO ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริ ษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ด้วยพันธกิจ ESG
พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมในการวิ จัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่ วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสุขภาพ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความปลอดภัยให้กับผู้บริ โภค รวมทั้งการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่ วยลดผลกระทบด้านทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม จึงมีความมุ่งมั่นร่วมแก้ไขปั ญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ จากปริมาณขยะพลาสติกที่ เกิดขึ้น บริษัทฯ ได้นำ “บีไนซ์” (BeNice) ผลิตภัณฑ์บำรุงและทำความสะอาดผิ ว หนึ่งในแบรนด์กลุ่มผลิตภัณฑ์ ของใช้ส่วนบุคคล (Personal Care Products) เป็นโมเดลต้นแบบขับเคลื่อนบรรจุ ภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยดำเนินการปรับเปลี่ยนบรรจุภั ณฑ์แบบใหม่ที่ทำจากพลาสติกรี ไซเคิล 100% ตั้งแต่ต้นปี 2562 รวมทั้งสิ้น 25 รายการ (SKUs) ผ่านนวัตกรรมการผลิต rHDPE (Recycled High-Density Polyethylene) หรือการนำขวดพลาสติกใช้แล้ วนำกลับมารีไซเคิล ประกอบด้วย
1.ลดการใช้ทรัพยากรใหม่: rHDPE ใช้พลาสติกที่ใช้แล้วนำมารี ไซเคิลผลิตใหม่ ช่วยลดความต้องการใช้พลาสติกบริ สุทธิ์และลดการใช้เชื้อเพลิ งฟอสซิล 2. ลดปริมาณขยะพลาสติก: การใช้ rHDPE ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ต้ องถูกนำไปกำจัด ทั้งในรูปแบบการฝั งกลบและการเผา
3.ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: กระบวนการผลิต rHDPE ใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิ ตพลาสติกบริสุทธิ์ ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรื อนกระจกลดลงและ 4.ความทนทานและประสิทธิภาพ: rHDPE มีความทนทานสูงและสามารถใช้ ในผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น ขวดบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคี ยงกับ HDPE บริสุทธิ์
โดยตั้งแต่ปี 2563-2566 บริษัทฯ สามารถลดการใช้ Virgin plastic รวมทั้งหมด 211.40 ตัน หรือประมาณ 80 ตันต่อปี และคิดเป็นปริมาณคาร์ บอนเทียบเท่า 1673.19 ตัน โดยวางแผนจะติดสั ญลักษณ์ในฉลากบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่ ไตรมาสแรก ปี 2568 เพื่อระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้ช่ วย ลดการใช้พลาสติกและสร้างการรั บรู้และรองรับกับพฤติกรรมของผู้ บริโภคที่ตัดสินใจซื้อแบรนด์ที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
NEO ตั้งเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์ บีไนซ์ (BeNice) เป็นโมเดลต้นแบบขับเคลื่อนนวั ตกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่ งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “Innovation from Core to Care – คิดดีเพื่อโลก นวัตกรรมดีเพื่อคุณ”
โดยวางเป้าหมายว่าบีไนซ์ (BeNice) จะใช้บรรจุภัณฑ์ครึ่งหนึ่งจากวั สดุที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล 30% ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้ พลาสติกบริสุทธิ์หรือพลาสติกที่ ใช้ครั้งเดียว (Virgin Plastic) เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80 ตันต่อปีภายในปี 2568
“เรามีแบรนด์สินค้า 8 แบรนด์ พร้อมขยายผลสู่บรรจุภัณฑ์เป็นมิ ตรกับสิ่งแวดล้อม โดยแผนระยะยาว มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสิ่ งแวดล้อม เพราะ NEO เชื่อว่าจะสร้างโลกที่เป็นมิ ตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากให้กับทุ กคน
โดยจะพัฒนาบรรจุภัณฑ์ครบวงจรอย่ างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การดีไซน์โครงสร้างของตั วบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ให้ความสำคั ญกับการใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่า เพิ่มความแข็งแรง และให้สามารถลดของเสียในไลน์ การผลิตและบรรจุ
รวมถึงเพิ่มจำนวนต่อการขนส่งสิ นค้าต่อรอบเพื่อให้เกิดประสิทธิ ภาพสูงสุด อีกทั้งได้นำนวัตกรรมสำหรั บฝาของบรรจุภัณฑ์ขนาด 80, 170 มล. เปลี่ยนมาใช้ระบบ Bi-injection เพื่อลดการใช้สี ช่วยให้ระบบการรีไซเคิลมี ความสมบูรณ์มากขึ้น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ดีขึ้น เพื่อมุ่งสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และสร้างสรรค์อนาคตที่มั่นคงด้ านสิ่งแวดล้อม” นางสาวณิชมน กล่าว