NEWS

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ไตรมาส 3/2567 โชว์กำไรสุทธิ(1) 2,410 ล้านบาท โต 45% Omni Channel โดดเด่น

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ไตรมาส 3/2567 โชว์กำไรสุทธิ(1) 2,410 ล้านบาท เติบโต 45%
สัดส่วนยอดขาย Omni Channel เพิ่มขึ้นโดดเด่น ตั้งเป้าสร้างรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ CPAXT) ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 ทำรายได้รวม 124,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% โดยมีกำไรสุทธิ 1,952 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16.4%
ขณะที่กำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการ(1) อยู่ที่ 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตขึ้นทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด การขายนอกร้าน พร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (“Omni Channel”) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 19% ของยอดขายรวม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้
ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 378,416 ล้านบาท และกำไรสุทธิ  6,609 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.7% และ 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตามลำดับ นอกจากนี้ อีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง คือการเดินหน้าขยายสาขา 43 แห่ง พร้อมปรับโฉมสาขาและพัฒนามอลล์อย่างต่อเนื่องสะท้อนความสำเร็จจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่ตั้งไว้
 
สำหรับแนวทางการเติบโตในไตรมาส 4/2567 นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1.การเพิ่มความแข็งแกร่งกลุ่มสินค้าอาหารสด ผ่านการผนึกกำลังสรรหาสินค้า เพื่อสร้างความแตกต่าง และความหลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่า พัฒนาต่อยอดอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน เบเกอรี่ และสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label) ซึ่งส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น

2.การพัฒนาทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และการส่งสินค้าถึงลูกค้า จากการขยายพื้นที่ให้บริการ โดยใช้จุดแข็งของเครือข่ายสาขาทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 2,600 สาขาทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาทีมขายนอกร้าน เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้

3.การขยายสาขา ปรับโฉมสาขาและพัฒนามอลล์ สู่การเป็นศูนย์กลางชุมชน ที่รองรับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดโลตัส สาขายะลา ซึ่งเป็นสาขารูปแบบ hypermarket แห่งแรกของบริษัทฯ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขยายสาขารูปแบบ Hybrid ที่รวมทั้งค้าปลีกและค้าส่งไว้ในที่เดียว ได้แก่ แม็คโคร-โลตัสมอลล์  สาขาชัยนาท และสาขาถนนศรีอยุธยา
รวมถึงการปรับโฉมสาขา เพื่อตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์การจับจ่ายที่เหนือกว่า ให้กับลูกค้าและผู้ประกอบการอย่างลงตัว ด้วยกลยุทธ์ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโฮเรก้า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อการเติบโตของบริษัทฯ ด้วย
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติในหลายสาขา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเคียงข้างสังคมไทย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ได้แก่ รางวัลจากเวที IAA Awards for Listed Companies 2024 สาขา Outstanding CEO, Outstanding CFO และ Outstanding IR
รวมถึงรางวัล MEA ENERGY AWARDS ปีที่ 7 จากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ประเภทอาคารประหยัดพลังงาน กลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ แสดงให้เห็นถึงการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573
หมายเหตุ: (1) หลังการปรับปรุงรายการอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการควบบริษัท

ใส่ความเห็น