NEWS

SET ตีตั๋วนอนรอปัจจัยบวก กูรูแนะเล่นตาม 3 ธีมหลัก ในช่วงสั้น

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ มองตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้น ชี้มีโอกาสฟื้น แต่ Upside จำกัด แนะให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุในบทวิเคราะห์ SET มีโอกาสฟื้นตัวโดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1,400 จุด แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคจากความกังวลเสถียรภาพการเมืองและ ESG ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)

รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการส่งออกรถยนต์ที่คาดอ่อนแอลง แต่ยังมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพในประเทศเพิ่มเติม รวมถึงการเริ่มต้นของมาตรการ Easy E-Receipt ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 จะช่วยกระตุ้นงบ 1Q68 ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดคาด GDP 4Q67 ของจีนจะเพิ่มขึ้น 5%YoY และเงินเฟ้อ ธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น 2.9%YoY

ทั้งนี้มองแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และการลดดอกเบี้ยของเฟด จะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม อาจจะไม่กดดันลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

แนะนำ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้น แต่ Upside จำกัด โดยรอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ และนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการ Easy E-Receipt ช่วงวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT)

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ต แนะนำ AP KTB BBL PTT

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก OSP AMATA AU TIDLOR BCP

4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่ได้ Sentiment บวกหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น แผนดึงเม็ดเงินลงทุน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Entertainment Complex และลดค่าครองชีพ-เพิ่มกำลังซื้อ

โดยแนะนำ กลุ่มนิคมฯ (WHA AMATA) กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CRC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT AWC) และ 2) หุ้นที่ราคา Laggard (เทรด PER 2568F ต่ำกว่า -1SD) แต่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำ BTG BEM BDMS

DELTA: 4Q67 คาดจะเป็นบริษัทเดียวที่รายงานกำไรปกติเติบโต YoY ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราดูแลอยู่ เนื่องจากได้ประโยชน์จากวัฏจักรการเติบโตของ AI และอัตรากำไรขั้นต้นยังคงแข็งแกร่งหลังมีรายได้จากผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงที่พัฒนาโดย DELTA Thailand ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่า Royalty Fee ให้กับ DELTA Taiwan ในสัดส่วนสูง ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อเก็งกำไรวันนี้ไม่เกิน 145 บาท

CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ

ยักษ์ลงทุน

ใส่ความเห็น