LPH ฟอร์มสวย ปี 67 กำไรโต 23% มีรายได้รวมกว่า 2,436 ลบ.บอร์ดชงแจกเงินปันผลอีกหุ้นละ 0.10 บาท ขึ้น XD 6 พ.ค. 68 นี้ เตรียมดันบริษัทลูก LPM เข้าตลาด mai ตั้งธงรายได้ปี 68 โต 15%
“บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว หรือ LPH” ปิดงบปี 67 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,436.18 ลบ. โต 7.72% กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 78.18 ลบ. เพิ่มขึ้น 23.02% เทียบกับปีก่อน บอร์ดตอบแทนผู้ถือหุ้น แจกปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ขึ้น XD วันที่ 6 พ.ค. 68 นี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 19 พ.ค. 68 สะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
“ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช” แม่ทัพใหญ่ กางแผนปี 2568 ปักธงรายได้รวมโต 15% จากคนไข้ทั่วไปเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) รวมทั้งผู้ป่วยต่างชาติ พร้อมเดินหน้าสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ 2 แห่ง คือ รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร และปรับปรุงอาคารเก่าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เล็งดันบริษัทลูก LPM เข้าตลาด mai ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH
เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2567 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2567) มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,436.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.72% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 2,261.64 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาลตามปกติธุรกิจ 110.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5.69% มีรายได้รักษาพยาบาลรวมบริการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้มาใช้บริการที่ชำระเงินเองเพิ่มขึ้น 121.93 ล้านบาท เติบโตขึ้น 9.39% เทียบกับปีก่อน
ขณะที่รายได้จากโครงการประกันสังคมลดลง 11.25 ล้านบาท หรือลดลง 1.74% จากปีก่อน โดยได้รับผลกระทบหลักจากการที่สำนักงานประกันสังคมปรับลดอัตราการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW>2) สำหรับงวดปีดำเนินงาน 2567 ที่ต้องจ่ายให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการให้บริการของบริษัทย่อย AMARC เพิ่มขึ้น 55.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.13% เทียบกับปีก่อน และรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพิ่มขึ้น 8.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.23% เมื่อเทียบกับปีก่อน
จากนโยบายการขยายการเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ที่ 78.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.02 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 63.55 ล้านบาท โดยมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นสำหรับธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจบริการ 21.35% สูงกว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีที่ผ่านมาเล็กน้อยซึ่งอยู่ที่ 21.21% แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 7.72% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนเพื่อขยายศักยภาพการให้บริการทั้งในส่วนของ LPH และบริษัทย่อย
อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นและสะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 129.60 ล้านบาท โดยจ่ายจากผลประกอบการกำไรสุทธิประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 72 ล้านบาท และจ่ายกำไรสะสมยังไม่จัดสรรในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 57.60 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 1/2567 ไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 และจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ดังนั้นคงเหลือการจ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท เป็นเงินรวม 72 ล้านบาท วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 วันที่จ่ายปันผล 19 พฤษภาคม 2568
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมเติบโตที่ระดับ 15% จากปีก่อน
โดยภาพรวมปัจจุบันคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้นอก (OPD) และคนไข้ใน (IPD) โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.) ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55% ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้จากตะวันออกกลาง รวมถึงคนไข้ประเทศกัมพูชา และพม่า ซึ่งสนใจเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น
พร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ 2 แห่ง คือ รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร ได้มีการออกแบบเป็นอาคารสีเขียว (Green Building) เทรนด์รักษ์โลก และการปรับปรุงอาคารเก่าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ งบลงทุนจะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท
โดยคาดว่าการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางใหม่ 2 แห่ง จะแล้วเสร็จปลายปี 2569 พร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2570 หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะรองรับคนไข้ไทยพรีเมี่ยมและคนไข้ต่างชาติ ซึ่งจะเป็นฐานรายได้สำคัญในกลุ่มผู้ป่วยเงินสดในอนาคตด้วย นอกจากนี้ ได้วางแผนนำบริษัทลูก บริษัท แอลพี เม็ดดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด (LPM) เป็นบริษัทศูนย์ตรวจสุขภาพนอกสถานที่ เข้าจดทะเบียนใน mai ภายใน 2-3 ปีนับจากนี้ โดยในอนาคตมีแผนที่จะขยายงานด้านตรวจสุขภาพครบวงจร ตั้งแต่การป้องกันและดูแลสุขภาพการรักษาพยาบาล ศูนย์พักฟื้นโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุเป็นหลักด้วย
ยักษ์ลงทุน https://www.yaklongtun.com/