NEWS PROPERTY

“สิวารมณ์” ชี้ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัว เปิดตัว “สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส” รับดีมานด์เพิ่ม

บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท “SVR” ชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่การฟื้นตัว รุกเปิดตัวโครงการ สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส (อัสสัมชัญ – ศรีราชา) รับดีมานด์ที่ยังมีต่อเนื่อง ด้าน “อรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา” กรรมการผู้จัดการ ประกาศเดินเกมรุกผ่านการขับเคลื่อน 4 “S” SMART Location – SMART Function – SMART Value – SMART Home เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทฯพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ

นายอรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา กรรมการผู้จัดการ  บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ (“SVR”) ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living” โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์โครงการที่อยู่อาศัย เช่น ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯมองภาพรวมสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับเข้ามา หลังจากที่มีการชะลอตัวในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ยังจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งการปลดล็อกมาตรการ LTV และอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่อยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นจึงมองว่าผู้ประกอบการหลายรายเริ่มทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

และเพื่อเป็นการสอดรับกับดีมานด์ที่เริ่มกลับมา “สิวารมณ์ เรียลเอสเตท” มีการเปิดตัวโครงการใหม่ รองรับความต้องการที่ยังคงมีอยู่ ภายใต้โครงการ“สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส” (อัสสัมชัญ – ศรีราชา) มูลค่าโครงการ 450 ล้าบาท ซึ่งเป็นโครงการประเภทแนวราบรวม 134 ยูนิต ในราคาตั้งแต่ 1.69 – 3.39 ล้านบาทต่อยูนิต ปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดี มีผู้เข้าชมโครงการ (Walk in) อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2565 นี้

สำหรับโครงการ สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส (อัสสัมชัญ – ศรีราชา) ตั้งอยู่บนซอยศรีราชา-หนองค้อ 17 ถ.อัสสัมชัญ – ศรีราชา ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งภายในโครงการจะประกอบด้วย ทาวน์โฮม 50   ยูนิต, บ้านแฝด 74 ยูนิต, บ้านเดี่ยว 10 ยูนิต บนพื้นที่รวม 20 ไร่ 80.8 ตารางวา จะมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 125.95 – 158 ตารางเมตร (ตร.ม.) บนเนื้อที่ตั้งแต่ 19.30 – 63 ตารางวา (ตร.ว.) โดยแต่ละยูนิตจะมีที่จอดรถ จำนวน 2 คัน

ขณะที่ภายในตัวบ้านจะเน้นฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยจริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ทั้งทางด้านราคาและฟังก์ชั่นการใช้สอย ทั้งนี้ ภายในโครงการยังมีสวนสวยขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำระบบเกลือ อีกทั้ง ยังปลอดภัยในการเข้า-ออก ด้วยระบบ Auto Access Card, กล้องวงจรปิด และรปภ. 24 ชม. (Smart home)

ทั้งนี้ ภายในโครงการ สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส (อัสสัมชัญ – ศรีราชา) มีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ ประกอบด้วย ทาวน์โฮม Winston ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ บนที่ดิน 19 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 125 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.7 เมตร, บ้านแฝด kent ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมห้องอเนกประสงค์ บนที่ดิน 37.3 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 151.12 ตารางเมตร, บ้านเดี่ยว Simon ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ บนที่ดิน 50 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร และบ้านเดี่ยว Luthre ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมห้องอเนกประสงค์ บนที่ดิน 60 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 151.1 ตารางเมตร

สำหรับจุดเด่นของโครงการนี้คือ เป็นโครงการบ้านใกล้เมือง ในแบบบ้านสไตล์วิคตอเรียน (Victorian style) สโมสร สระว่ายน้ำ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองศรีราชา ใกล้ รร.อัสสัมชัญ ศรีราชา เพียง 5 นาที ถึงเซ็นทรัลศรีราชา และโรบินสัน อิออนมอลล์  ทั้งนี้ ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ ที่เป็นโครงการบ้านใกล้เมืองในโซนใจกลางศรีราชา ถือว่ามีทำเลศักยภาพมาก รวมถึงใกล้สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ชลบุรี            (ในอนาคต) สถานีศรีราชา, ใกล้ถนนสุขุมวิท และทางด่วน มอเตอร์เวย์ สาย 7 เป็นต้น

กรรมการผู้จัดการ เผยเพิ่มเติมว่า  บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงสร้างอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แนวคิดบ้านที่ครบทุกความต้องการ ผ่านการขับเคลื่อน 4 ปัจจัยหลักที่สำคัญ 1.)ทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพ (SMART Location) เนื่องจากมองว่า การเลือกทำเลที่ตั้งโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทฯ จะต้องดำเนินการก่อนการพัฒนาโครงการ เพราะทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อมหรือสภาพเศรษฐกิจบริเวณโดยรอบโครงการที่มีศักยภาพและเหมาะสม จะนำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาโครงการและได้รับการตอบรับที่ดี

2.) การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย (SMART Function) บริษัทฯให้ความสำคัญกับออกแบบรูปแบบบ้าน เพื่อสอดรับกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกช่วงอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด

3.)ความคุ้มค่าในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย (SMART Value) บริษัทฯเน้นศึกษารูปแบบโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการและก่อสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ มีการใช้พื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบสนองความต้องการใช้งานได้จริง เพื่อสร้างความคุ้มค่าและความประทับใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อโครงการบ้าน

และ 4.) ความทันสมัยและความสะดวกสบาย (SMART Home) บริษัทฯ เล็งเห็นถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นวัตกรรมที่เข้ามามีบทบาทในชีวิต และเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น เพื่อทำให้ผู้คนในปัจจุบันมีความสะดวกสบายและปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน จึงมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้าร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน มีระบบการสั่งการได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์ (Smart Network) มายังกล่องควบคุมหลักให้ส่งข้อมูลไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ทำงานตามต้องการ และมีการทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย ภายใต้สโลแกน “ควบคุมง่ายๆ อยู่ที่ไหนก็สั่งได้”

Key Business ดังกล่าว เป็นการสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และ พันธกิจ ของบริษัทฯในการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม สินค้าและบริการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิต โดยส่งมอบสังคมคุณภาพพร้อมความสุข  อย่างยั่งยืน  ภายใต้การพัฒนาคุณภาพสินค้าบริการ และองค์กร ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการใส่ใจความต้องการของลูกค้าในทุกระดับราคา และทุก generation เพื่อสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับ ลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และ พนักงาน สู่การเป็นบริษัทฯพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ

ใส่ความเห็น