ยักษ์ลงทุน – บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ “SCM” เตรียมสยายปีก สู่ “ธุรกิจลิสซิ่ง” ไตรมาส3/65 นี้ จ่อให้บริการกลุ่มลูกค้าสมาชิกของ SCM ที่มีอยู่ 1.6 แสนราย และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 2.5 แสนรายในปีนี้ ล่าสุด “นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร” ดอดเก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่ม 2 แสนหุ้น หนุนสัดส่วนหุ้นในพอร์ตขยับเป็น 184.8 ล้านหุ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตแบบก้าวกระโดดสอดรับแผนกลยุทธ์สู่ไลน์ธุรกิจใหม่(ลิสซิ่ง) ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เสริมทัพให้กรอบราคาเป้าหมาย ที่ระดับ 8 – 8.80 บาท พร้อมระบุกำไรปีนี้ส่อแววเพิ่มขึ้น10-20 % (EPS 0.40-0.44) PE 220 เท่า เชื่อธุรกิจสู่ลิสซิ่งหนุนผลการดำเนินเติบโตในระยะยาว
ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟต์เจล ที่มีส่วนผสมของ กัญชง-กัญชา โดยมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเซลล์ และทำให้ผ่อนคลายหลับสบาย คาดจะสามารถออกจำหน่ายได้เร็วๆ นี้ ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกจากเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และสามารถสร้างยอดขายให้กับ SCM ได้เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร “SCM” ได้เข้าซื้อ SCM เพิ่ม จำนวน 200,000 หุ้น เฉลี่ยราคา 6.30 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 184.8 ล้านหุ้น จากเดิมที่ 184.6 ล้านหุ้น โดยการเข้าเก็บหุ้นเพิ่มเติมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตที่มีโอกาสจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งสอดรับกับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะการเตรียมเพิ่มไลน์ธุรกิจสู่ “ลิสซิ่ง” ภายในไตรมาส 3/2565 นี้
ขณะที่ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ให้กรอบราคาเป้าหมาย SCM ที่ 8.0-8.8 บาท ประเมินอัตราการเติบโตของรายได้การเติบโตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20% โดยได้เริ่มรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ตั้งแต่ 2Q65 ให้กับลูกค้า SME ที่ขายสินค้าอาหารเสริมทางออนไลน์ ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มรายได้ และ Utilize โรงงานของบริษัท ช่วยทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิต รวมทั้งเพิ่มอัตรากำไร เนื่องจากธุรกิจ OEM มี Net margin 30-35% ขณะที่ SCM จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 1-2 ตัว/ไตรมาส ซึ่งจะผลักดันยอดขายและอัตรากำไร ส่วนรายได้จากต่างประเทศซึ่งมาจากการมีตัวแทนจำหน่ายในกลุ่มประเทศ ASEAN คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากการคลายล็อกดาวน์ นอกจากนั้น SCM ยังมีโอกาสในการปรับลดค่าคอมมิชชันลงจากที่ระดับเกือบ 50% เนื่องจากยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ประมาณ 40% ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น
ส่วนแผนการขยายสู่ธุรกิจเช่าซื้อนั้น ทางฝ่ายวิเคราะห์มองว่า เพื่อเป็นการต่อยอดจากฐานสมาชิก โดยการจัดตั้ง บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด (บริษัทย่อยของ SCM) จะให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถ และจำนองที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง โดยในระยะแรกมีลูกค้าเป้าหมายคือสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายของ SCM โดยใช้พื้นที่สาขาของบริษัท และระยะต่อไปจะขยายไปสู่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการต่อยอดจากฐานสมาชิกปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 1.6 แสนราย โดยบริษัทเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้สนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าแนวโน้มการเติบกำไรของ SCM จะเติบโตจากการเปิดเมืองซึ่งทำให้มีโอกาสในการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์การเกษตรได้อานิสงส์จากราคาปุ๋ยสูง บริษัทมีการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างผลิตสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง อีกทั้ง SCM กำลังเข้าสู่ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งต่อยอดจากการมีฐานสมาชิก 1.6 แสนราย ซึ่งอาจจะเป็นอัพไซด์ต่อผลประกอบการในระยะยาว