ENERGY

‘ซีเค พาวเวอร์’ ขึ้นทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน

‘ซีเค พาวเวอร์’ ขึ้นทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน ติดโผหุ้นกลุ่ม ESG Emerging ประจำปี 65

สถาบันไทยพัฒน์ ชื่นชม บมจ. ซีเค พาวเวอร์ มีการดำเนินงานที่โดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตามเกณฑ์ ESG Universal สอดคล้องเทรนด์โลกที่นักลงทุนให้ความสนใจ

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรที่ต่ำที่สุดรายหนึ่งของภูมิภาค ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ในทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน (ESG Emerging List) และเป็นหลักทรัพย์ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100

จากการประเมิน ESG Rating โดยสถาบันไทยพัฒน์ และเป็นบริษัทเดียวใน SET กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในESG Emerging List ในปี 2565 นี้

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “CKPower ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมไปถึงการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจหลัก (Core Business) ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม

รวมถึงการ มีธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดให้เป็นวิสัยทัศน์หลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท”

“เป็นที่น่าภูมิใจว่าหุ้น CKP ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในทำเนียบ ‘บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน’ หรือ ESG Emerging List และเป็นหลักทรัพย์ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปีล่าสุด (2565) ซึ่งจัดทำโดยสถาบันไทยพัฒน์ องค์กรที่ได้รวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน

เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักกับปัจจัยด้าน Sustainable Investment (การลงทุนที่ยั่งยืน) โดยพิจารณาผลการดำเนินงานด้าน ESG ควบคู่กับผลการดำเนินงานทางการเงิน ทั้งในมิติของความเสี่ยง ศักยภาพในการแข่งขัน และการได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นเทรนด์การลงทุนทั่วโลกที่นักลงทุนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นายธนวัฒน์ กล่าว

CKPower มุ่งเน้นในการส่งเสริมการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ซึ่งก่อให้เกิดมลภาวะในระดับต่ำ ตลอดจนใช้ทรัพยากรการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ CKPower มีกระบวนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของบริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก โดยคำนึงถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาพลังงานสะอาด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายใน พ.ศ. 2593

สำหรับการประเมิน ESG Emerging และ ESG100 ในปี 2565 นี้ สถาบันไทยพัฒน์ได้ทำการประเมินบริษัทจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 851 หลักทรัพย์ โดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ESG จากข้อมูลกว่า 15,760 จุดข้อมูล

ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาจะคัดเลือกจากหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG ที่ปรากฏในการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงการดำเนินงานที่สะท้อนปัจจัยด้าน ESG ในมิติต่างๆ โดย CKPower เป็นบริษัทเดียว
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศภายใต้กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน ESG Emerging List ในปี 2565 นี้

“ความสำเร็จครั้งนี้ ตอกย้ำความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานและการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพของผู้บริหาร และทีมงาน CKPower ทุกคน นโยบายที่ชัดเจนของเราที่มุ่งเน้นในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดประเภทต่างๆ

ตลอดจนการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมีมาตรฐานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่นให้กับ
นักลงทุนอย่างยั่งยืน CKPower พร้อมก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุด ในภูมิภาค และมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุดรายหนึ่ง” นายธนวัฒน์ กล่าว

ปัจจุบันภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ถูกกล่าวถึงในระดับโลก ส่งผลให้หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเริ่มรณรงค์ให้ภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประชาชนหันมาใส่ใจดูแลทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมกันดูแลและรับผิดชอบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วนและเป็นวาระสำคัญของประเทศ

ใส่ความเห็น