L&E โชว์งบ Q3/65 สดใส กำไรพุ่ง 65% รายได้อยู่ที่ 786 ลบ. เผยข่าวดีรับงานจากผู้ประกอบการรายใหญ่ งานในมือแน่นปึ้ก 1,300 ลบ. หนุนผลงานทั้งปีโต 10-15% ตามแผน
L&E ยิ้มรับผลงาน Q3/65 สดใส กำไรพุ่ง 65% มีรายได้จากการขายและให้บริการ 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เผยกำลังซื้อจากผู้ประกอบการต่างๆ เริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
โดยล่าสุด L&E คว้างานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ตุนงานในมือ (Backlog) แน่นปึ้กอยู่ที่ 1,300 ลบ. โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้า IOT ที่สูงขึ้น ธุรกิจ Entertainment Tech รวมทั้ง Horticultural & Bilogical Lighting เสริมภาพลักษณ์ให้ L&E เป็นมากกว่าแสงสว่าง
นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวดไตรมาส 3/2565 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 122 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18%
เป็นผลจากรายได้จากการขายและให้บริการของงานโครงการเพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12% และงานขายส่ง/ขายปลีกเพิ่มขึ้น 71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47% ส่วนงานขายต่างประเทศนั้นเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4% การเพิ่มขึ้นของรายได้จากงานขายโครงการ และงานขายส่ง/ขายปลีก เป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง
รวมทั้งบริษัทห้างร้านต่างๆ สามารถปรับตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคได้ ส่งผลให้มีการขยายหรือปรับปรุงกิจการเพิ่มมากขึ้น และในไตรมาสนี้บริษัทได้ขายสินค้าให้กับโครงการขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น งานศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นต้น ส่วนการเพิ่มขึ้นของงานขายต่างประเทศ เป็นผลจากการขายสินค้าไปในตลาดอเมริกาได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
โดยมีกำไรสำหรับงวด 13.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65% เป็นผลจากกำไรขั้นต้นจากการขายรวมรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 35.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 29.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17% และมีภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมสถานการณ์ในประเทศ L&E ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโครงการใหญ่ One Bangkok ให้งานในส่วนโคมไฟรวมทั้งระบบ IOT ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สำหรับอาคารสำนักงานและที่จอดรถใต้ดิน มูลค่างานรวมประมาณเกือบ 300 ล้านบาท ( โดยที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือรับรู้รายได้ในปี 2566 ) มาเติม backlog หลังจากส่งมอบโครงการใหญ่ ๆ เช่น โลตัส ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ คาดการณ์ประมาณรายได้จากงาน IOT ในปีนี้ จากงานใหญ่ๆ เช่น QSNCC , Park Silom , One Bangkok , หอศิลป์ราชดำเนิน , Smart Pole คลองลัดโพธิ์ เป็นต้น มีผลทำให้เพิ่มรายได้ที่เกี่ยวกับ IOT ทั้งหมดเป็นสัดส่วนประมาณ 10 -15 % ของรายได้รวมบริษัท
อีกทั้งประสบการณ์จากงานโครงการ IOT ข้างต้น เป็นอานิสงส์เพิ่มพูนให้กับ L&E กล่าวคือ องค์ความรู้ทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีทั้งระบบ Digital Ecosystem ในการออกแบบ การให้บริการ การ Commissioning และ R&D เชื่อมโยงต่อยอดให้กับสินค้าหลักของบริษัทให้ Smart ประยุกต์ใช้งานสามารถเชื่อมต่อระบบนิเวศของ IOT Connect รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบ IOT ให้เสถียรยิ่งขึ้น รวมทั้งประสิทธิภาพสายการผลิตให้กับโรงงานในเครือทั้ง LEM & LES
ส่งผลเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ L&E ทั้งกลุ่มเทียบได้กับระดับสากล เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้า IOT และอุปกรณ์เชื่อมต่อ “IOT -Enabled Smart Lighting and Connected Devices” ที่เพิ่มสูงขึ้นและยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาสู่ Thailand 4.0 และ Smart City พร้อมรองรับธุรกิจยุค 5G technology รวมทั้ง METAVERSE
ส่วนงานในต่างประเทศ เนื่องจากสงครามยูเครนที่ยังยืดเยื้อและสภาพเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ที่ยังได้รับผลกระทบทางลบจากอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเติบโตที่ลดลง ทำให้ลูกค้าหลักที่สหรัฐอเมริกาชะลอการสั่งซื้อ ส่งผลกระทบรายได้ส่งออกในครึ่งปีหลังและอาจจะต่อเนื่องไปถึงปี 2566 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากครึ่งปีแรกผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตได้ค่อนข้างดี ทำให้รายได้ส่งออกทั้งปี 2565 นี้ น่าจะเติบโตได้มากกว่า 15 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
“โดยประมาณการรายได้รวมของบริษัทฯทั้งปี 2565 ทั้งกลุ่มบริษัทฯคาดว่าจะเติบโตได้ 10 -15% จากปีที่ผ่านมา ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลาย งานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้า IOT ที่สูงขึ้น ธุรกิจ Entertainment Tech รวมทั้ง Horticultural & Bilogical Lighting เสริมภาพลักษณ์ให้ L&E เป็นมากกว่าแสงสว่าง” นายอนันต์ กล่าว
โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่ ภายใต้ชื่อ “L&E Beyond” เพื่อดําเนินธุรกิจจําหน่ายและให้บริการงานโปรดักชั่น (Production Solution Provider) แบบครบวงจร ให้บริการทั้งระบบแสง เสียง ภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัยกลุ่ม Entertainment Tech แก่ธุรกิจด้านบันเทิง
อาทิ งานละคร งานถ่ายรายการโทรทัศน์ งานถ่ายทํา Music Video งานคอนเสิร์ต งานนิทรรศการแบบครบวงจร ต่อยอดจุดแกร่งของบริษัทฯ ที่เป็นผู้นําบริการแสงสว่างมาตรฐานสากลครบวงจร (Total Lighting Solution Provider) และมีโรงงานผลิตโคมไฟและหลอดไฟคุณภาพสูงสําหรับงานโครงการอยู่แล้ว
ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจใหม่จะเป็นอีกช่องทางที่จะสนับสนุนรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมทั้งเสริมภาพลักษณ์ไปสู่ tech company ตอบรับองค์กรสำหรับศตวรรษที่ 21
Post Views: 250