นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า DITTO และ TEAMG ร่วมทุนตั้งบริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด หรือ DTX เพื่อร่วมดำเนินงานโครงการนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดจากความเชี่ยวชาญที่เป็นจุดแข็งของทั้ง DITTO และ TEAMG มาพัฒนาร่วมกัน โดย DTX จะทำธุรกิจที่เป็น Core Technology ที่เรียกว่า Digital Twin ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ทั้งสองบริษัทถือหุ้นเท่ากันฝ่ายละ 50% ของทุนจดทะเบียนและจำนวนหุ้น
“DITTO มีทีมพัฒนา มีโปรแกรมเมอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโลยีสารสนเทศ และการนำ DATA เข้าสู่ระบบ Digital ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ส่วน DTX ก็มีลักษณะคล้าย ๆ กับธุรกิจหลักของ DITTO แต่เป็นการนำข้อมูล ด้านการก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภค ซึ่งถือเป็นข้อมูลประเภทหนึ่งเพื่อ transform มาสู่ระบบ Digital เช่นเดียวกัน ปกติ DITTO นำเอกสารเข้าสู่ระบบ Digital แต่ DTX นำข้อมูลระบบสาธารณูปโภคมาเก็บแทน เป็นการเพิ่มมูลค่าการตลาด เพราะระบบงานก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภค เป็นโครงการขนาดใหญ่มีมูลค่าสูงซึ่งทั้งงานก่อสร้าง สาธารณูปโภค ระบบน้ำ ข้อมูลเหล่านี้ทาง TEAMG มีพร้อม โดย DITTO จะทำหน้าที่แปลงมาอยู่ในรูป Digital ” นายฐกร กล่าว
ดร.อภิชาติ สระมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG กล่าวว่า “ทีมกรุ๊ปดำเนินงานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษาแบบบูรณาการมายาวนานกว่า 45 ปี มีประสบการณ์ในการดำเนินงานโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) ทั้งของภาครัฐและเอกชน ทำให้เรามีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง และฐานข้อมูลที่ทันสมัย และครอบคลุมหลากหลายสาขา ซึ่ง DTX จะนำข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบ Digital เพื่อให้เป็น Digital Information และนำมาปรับใช้ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากในอดีต หนึ่งในนั้นคือ Building information Modeling (BIM) ซึ่งเป็นต้นแบบของ Digital Twin ทีมกรุ๊ปมีความเชี่ยวชาญในการนำ BIM มาใช้ในงานออกแบบและงานควบคุมการก่อสร้างโครงการ เราจึงมีความพร้อมที่จะประยุกต์ใช้ข้อมูลจาก BIM ในการสร้าง Digital Twin Data เปลี่ยนจากข้อมูลบนกระดาษเป็น Digital information ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดในรูปแบบ Software ที่พัฒนาขึ้น ให้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต”
ด้าน ผศ.ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด หรือ DTX เปิดเผยว่า สำหรับเทคโนโลยี Digital Twin คือ แบบจำลองที่สะท้อนสถานะความเป็นจริงของวัตถุทางกายภาพ (Physical) ณ เวลานั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (Digital) ที่เปรียบเสมือนคู่แฝดที่คนหนึ่งอยู่ในโลกกายภาพ (Physical) และอีกคนหนึ่งอยู่ในโลกคอมพิวเตอร์ (Digital) ซึ่งแบบจำลองฝาแฝดสามารถแสดงรายละเอียด และคุณสมบัติเทียบเท่าวัตถุจริง สามารถให้ข้อมูลแบบ Real Time และจะถูกนำไปพัฒนา ปรับปรุงระบบการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยให้ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผศ.ดร.พร กล่าวอีกว่า อาจจะอธิบายง่าย ๆ ว่า Digital Twin เป็นการนำกายภาพของวัตถุนั้น ๆ เช่น ข้อมูลของอาคารสูงขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ข้อมูลการก่อสร้าง ระบบน้ำ ระบบไฟ รวมถึงข้อมูลของเมือง ที่ปกติจะถูกบันทึกอยู่ในพิมพ์เขียว หรือเก็บไว้ในไฟล์คอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป แต่ Digital Twin คือการนำข้อมูลหรือพิมพ์เขียวนั้นมาอยู่ในแพลตฟอร์มที่เป็นระบบ Digital สามารถดูได้แบบ Real Time ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและจะเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต
“ผู้บริหารอาคาร ระบบสาธารณูปโภค อยากจะเห็นปริมาณการใช้ไฟฟ้าแบบ Real Time หากเป็นผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม ก็อยากเห็นว่าปริมาณน้ำท่วมหลังจากฝนตกลงมาเป็นอย่างไร ตรงไหนท่วมหนัก ตรงไหนไม่ท่วม เพื่อจะได้มีการแจ้งเตือน หรือ ผู้ว่าฯ ของเมืองที่เราเรียก Smart City อาจจำเป็นต้องเข้าถึง CCTV ดูความปลอดภัย ดูการจราจร ดูสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ดูความเสียหายของอุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่าง ๆ เช่น เครื่องสูบน้ำ ไฟถนน หรือการเฝ้าสังเกตการใช้พลังงาน ตัว Digital Twin ก็จะสามารถส่งสัญญาณมาโดยตรง ปราศจากคนกลาง ทำให้ข้อมูลที่ได้รับถูกต้องแม่นยำโปร่งใสไม่ผิดเพี้ยน” ผศ.ดร.พร กล่าว
สำหรับประโยชน์ที่จะได้จาก Digital Twin
1) ช่วยลดการพึ่งพาแรงงาน ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ช่วยให้ข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
2) สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างฉับไวเพราะได้ข้อมูลที่เป็น Real Time ทำให้การตัดสินใจแก้ปัญหาได้ถูกต้องและทันท่วงที
3) ทำให้เห็นปัญหาที่เป็นภาพใหญ่ หรือเป็นแบบบูรณาการ จะทำให้องค์กรเกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เกิดนโยบายใหม่ๆ
สำหรับกลุ่มลูกค้านั้น ที่ผ่านมาจะเป็นลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์ ที่เป็นอาคารสาธารณูปโภคสำหรับขายจำนวนมหาศาลแต่มีอุปสรรคในการติดตาม ตรวจสอบ บำรุงรักษา
ผศ.ดร.พร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2023 DTX มีแผนจะนำเสนอแอปพลิเคชัน ที่เกี่ยวกับที่ดิน คือ การนำเอา DATA ที่เป็นจริงของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ณ เวลานั้น (Physical) มาวิเคราะห์ในโลกคอมพิวเตอร์ (Digital) เพื่อบริหารความเสี่ยงในการลงทุนในที่ดิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะมีแอปพลิเคชันการบริหารนิคมอุตสาหกรรม โครงการสาธารณูปโภคด้านพลังงาน และการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น