บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” “พาย” ประเมิน ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1.58% ได้แรงหนุนจากหุ้น Microsoft ขณะที่นักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯในคืนนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.5% ได้ปัจจัยบวกจากอุปทานน้ำมันโลกจะเข้าสู่ภาวะตึงตัวเนื่องจากรัสเซียส่งสัญญาณต่อการลดกำลังการผลิต
สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯและประชุม FED สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯจะประกาศในวันที่ 13 ธ.ค. (ช่วงเวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) Bloomberg คาดที่ 7.3%YoY +0.3%MoM ตัวเลขดังกล่าวเป็นปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญเนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายของ FED หากตัวเลขเงินเฟ้อประกาศมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไว้จะหนุนตลาดหุ้นฟื้นตัวแต่หากประกาศสูงกว่าคาดก็จะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้น (คล้ายกับช่วงที่ประกาศ PPI) ในวันศุกร์ที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้
ปัจจัยถัดไปนักลงทุนจะไปให้น้ำหนักกับประชุม FED ที่จะทราบผลช่วงพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย ความเห็นจาก CME FED WATCH ระบุว่าน้ำหนักส่วนมากราว 78.2% ให้โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และอีก 21.8% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างแรกคือ FED จะขึ้นดอกเบี้ยเท่าไรในการประชุม ธ.ค. ซึ่งหาก 0.5% ก็มองเป็นกลางเพราะ เป็นสิ่งที่ตลาดคาดหมายไว้ อย่างที่สองคือดอกเบี้ย FED ในปี 2023 จะเป็นเท่าไร ซึ่ง CME FED WATCH ระบุว่าปลายปี 2023 ดอกเบี้ย FED น่าจะลงมาอยู่ที่ 4.5-4.75% ถ้าหากมิเป็นเช่นนั้นตลาดหุ้นก็เสี่ยงที่จะ ปรับฐานเช่นกันและสุดท้ายถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อท่าทีและความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อสหรัฐฯหากส่งสัญญาณถึงความกังวลก็เสี่ยงที่จะปรับฐานเช่นกัน
ส่วนอื่นๆติตตาม (1) ยอดค้าปลีกสหรัฐฯในวันพฤหัสช่วง 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดที่ -0.1%MoM ตัวเลขที่อ่อนแอเชื่อว่าจะเป็นบวกกับตลาดมากกว่า (2) ในวันเดียวกันจะมีการรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg คาดที่ 2 แสนตำแหน่ง โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1610 – 1640 เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นเพียงแค่ Trading และเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกิจกรรมภายในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ธนาคารฯ (BBL KBANK SCB TISCO TTB) สื่อสาร (ADVANC) ท่องเที่ยว (AOT CENTERL ERW MINT) ขนส่ง (BEM) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) สินค้า IT (COM7 SYNEX)
BJC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท) คาดกำไรไตรมาส 4/22 แตะจุดสูงสุดของปีจาก 1) กำไรโมเดิร์นเทรดที่ฟื้นตัวดี จากยอดขายในย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นและการมอบส่วนลดค่าเช่าที่น้อยลง และ 2) กำไรธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัวขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 171.00 บาท) คำแนะนำ “ซื้อ” สะท้อน 1) งบดุลที่ยืดหยุ่นดี ด้วยอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูง และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งพร้อมรับมือความไม่แน่นอน 2) กำไรสุทธิที่โตมั่นคง 3) ROE ที่สูงขึ้น และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง