NEWS

“โกลเบล็ก” จับตา “เฟด”ขึ้นดอกเบี้ยแบบเชิงรุก

บลโกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ผันผวนตามต่างประเทศ เหตุกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย เชิงรุก หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งกว่าตลาดคาด จึงให้กรอบดัชนี 1,660-1,700 จุด แนะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์กรณีจีนอนุญาตจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะตั้งแต่ 6 ก.พ.66  และโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5  ชู MINTCENTELERW-SPA-AU-SHR น่าลงทุน

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้อ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เชิงรุก หลังสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่งเกินเท่าตัว

ส่วนอัตราการว่างงานสหรัฐลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป

รวมทั้งปัญหาการคว่ำบาตรยังมีต่อเนื่อง ล่าสุดประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียภายในวันที่ 24 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ ปีของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับราคาน้ำามันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของกรอบดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,700 จุด

ด้านปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ ในสัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ วันนี้ (7 ก.พ.)

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออกและสัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส่วนวันที่ 15-16 ก.พ. สภาผู้แทนราษฎร เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ (7 ก.พ.)  สหรัฐ รายงานดุลการค้าเดือนธ.ค. วันที่ 8 ก.พ. สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 9 ก.พ. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันที่ 10 ก.พ. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. และสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประเดิมวันแรกนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวประเทศไทยในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์  โดย ททท.คาดทั้งปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนราว 5 ล้านคน และโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส โดยหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ ได้แก่ MINT, CENTEL, ERW, SPA, AU และ SHR

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมในเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดยังให้น้ำหนักกับตัวเลขเฟ้อเดือนมกราคม หากตัวเลขออกมาอ่อนตัวจากครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 6.5% อีกทั้งตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวลง จะเป็นแรงหนุนแก่สินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ SPDR ฟื้นตัวมากขึ้นโดยระหว่างเดือนมกราคมมีแรงซื้อสลับแรงขายมองเป็นบวกกับราคาทองคำ

โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองอาจแกว่งตัวในกรอบ 1,875-1,975$/OZ มองตลาดรับข่าวดีการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว อีกทั้งดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงมีแนวโน้มหลุดแนวรับที่ระดับ 101.00 มองเป็นบวกกับราคาทองคำ คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้

ยักษ์ลงทุน

ใส่ความเห็น