นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการลงทุนใน 5 กิจการคือ
- การเข้าลงทุนในหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 18,614,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 3.67 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ผ่านการซื้อขายในกระดานหลักซื้อขายหลักทรัพย์ (“Main Board”) ในวงเงินไม่เกิน 272,695,100 บาท ซึ่งทำให้ SABUY จะถือหุ้นใน AS เพิ่มเป็น 24.90 % ทั้งนี้ AS เป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ (Online Entertainment Service) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นผู้นำในการให้บริการเกมออนไลน์ (Game Online Operator) อันดับหนึ่งในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ และอันดับสองในประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน AS ให้บริการเกมออนไลน์รวม 33 เกม ในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซีย (“ธุรกรรม AS”)
- การให้บริษัทฯ หรือ บริษัท สบาย พอซ จำกัด (“SBPOS”) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท อินโฟแกรมเมอร์ จำกัด (“IFGM”) จำนวนไม่เกิน 12,500 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 20.00 ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 45,000,000 บาท ให้แก่ IFGM ทั้งนี้ IFGM ประกอบธุรกิจผู้พัฒนาและให้บริการระบบบริหารจัดการร้านอาหารอย่างมืออาชีพครอบคลุมการใช้งานธุรกิจร้านอาหารทุกขนาดตั้งแต่ร้านขนาดเล็ก ไปจนถึงการบริหารหลายสาขา และมีประสบการณ์ในด้านระบบ Point of Sale (POS) ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานครอบคลุมครบครัน สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย (“ธุรกรรม IFGM”)
- การให้บริษัทฯ หรือ บริษัท สบาย อินฟราสตรัคเจอร์ จำกัด (“SBINFR”) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท นิภา เทคโนโลยี จำกัด (“NIPA”) จำนวนไม่เกิน 110,525 หุ้น และหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 110,525 หุ้น จากผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA ซึ่งคิดเป็นจำนวนรวมร้อยละ 10.00 ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 200,000,000 บาท ให้แก่ NIPA และ กลุ่มครอบครัวจุลยา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA (“ผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA”) ทั้งนี้ NIPA ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการ ให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนา cloud infrastructure โดย NIPA เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud solutions ที่เป็น Open Source Platform ของ Cloud Service Providers จากทั่วโลกที่เลือกใช้งาน ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับสอง รองจาก AWS และเป็นผู้ให้บริการ Cloud ไม่กี่รายในประเทศที่มีระบบให้บริการเช่นเดียวกับ Global Cloud Provider อย่างเช่น AWS Google Microsoft Huawei เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าผ่าน https://nipa.cloud และสามารถเลือกบริการตามความต้องและชำระเงินผ่าน Payment Gateway ได้ทันที และมีราคาให้บริการเฉลี่ยถูกกว่า Global Cloud Provider ร้อยละ 30 – 60 ขึ้นอยู่กับบริการ โดยมีสำนักงานใหญ่และ Data Center ที่อาคารโทรคมนาคม ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการชุมสายอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย มีโครงสร้างเหมาะสมรองรับกับระบบ Data Center นอกจากนี้ยังมี Data Center อีกสองแห่งที่พระราม 9 และ นนทบุรี เพื่อรองรับการขยายของธุรกิจ อีกทั้ง ประกอบธุรกิจเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ (Digital Marketing Agency) แบบครบวงจร ที่นำ innovation มาเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (“ธุรกรรม NIPA”)
- การให้บริษัทฯ หรือ บริษัท สบาย เอาท์ซอร์สซิ่ง จำกัด (“SBOSC”) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 20,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 80.00 ในบริษัท เอสทูสมาร์ท จำกัด (“S2Smart”) จาก นาย ชัยชัชนนท์ ทรัพย์ประกอบ นาย อมรเทพ โทรอุดมทรัพย์ และ นาย นัทธ์ชนัน ฉ่ำแสง (“ผู้ถือหุ้นเดิมของ S2Smart”) ทั้งนี้ S2Smart ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาแรงงานในพื้นที่ภาคกลางเป็นหลัก โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 18,354,400 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ S2Smart (“ธุรกรรม S2Smart”)
- การเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน บริษัท สบาย มาสเตอร์ จำกัด (“SBMST”) จำนวนไม่เกิน 2,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 66.67 ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 20,000,000 บาท ให้แก่ SBMST ทั้งนี้ SBMST เป็นบริษัทที่ทางบริษัทฯ ได้ร่วมจัดตั้งกับ บริษัท อินดีม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคผ่านช่องทาง MLM (“ธุรกรรม SBMST”)
รายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัท
จดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไป”) โดยขนาดของรายการดังกล่าวซึ่งคำนวณจากงบการเงินรวมที่สอบทานแล้วของบริษัทฯ สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งขนาดของรายการรวมจะมีจำนวนเท่ากับร้อยละ 47.98 ตามเกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่คำนวณขนาดของรายการได้ผลลัพธ์สูงสุด ในการนี้เนื่องจากขนาดรายการมีมูลค่ามากกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศเกี่ยวกับการเข้าทำ