บลจ.อีสท์สปริง เผยกองทุน พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น อายุ 1 ปี ฮอต ปิดขายก่อนกำหนด เตรียมเปิดจองซื้อรุ่นใหม่ 12-16 มิ.ย.นี้ โอกาสรับผลตอบแทน 1.75% ต่อปี
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเสนอขาย “กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 1Y2 (ES-GOVCP1Y2) ซึ่งเป็นกองทุนประเภทเทอมฟันด์ที่มุ่งรักษาเงินต้น
ซึ่งผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับเงินต้นคืน 100% และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุน โดยสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนความต้องการของนักลงทุนจำนวนมาก ที่กำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอน ภายใต้ความเสี่ยงต่ำ
ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 1Y3 (ES-GOVCP1Y3)” โดยเปิดเสนอขายตั้งแต่วันที่ 12-16 มิถุนายน ศกนี้ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
โดยกองทุนนี้มีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในตราสาร ที่มุ่งให้เกิดการรักษาเงินต้น ได้แก่ ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ในอัตราส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยในสัดส่วน 100% ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 1.99% ต่อปี โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.24% ต่อปีแล้ว คาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.75% ต่อปีของ NAV
สำหรับกองทุน ES-GOVCP1Y3 จะลงทุนครั้งเดียว และถือทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยบริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ
และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บริษัทจัดการเปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปีได้
ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหมายไว้ หากผู้ออกตราสาร หรือธนาคารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้
และบริษัทจัดการจะสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725