บลจ.อีสท์สปริง เผยนักลงทุนแห่จองซื้อ กองทุนเทอมฟันด์ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทน เตรียมเปิดขายกองทุนพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้นรุ่นใหม่อายุ 1 ปี ยีลด์ 2.15 % ต่อปี
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ นักลงทุนจำนวนมากได้ให้ความสนใจลงทุนในกองทุนประเภทเทอมฟันด์ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและยังสามารถรักษาเงินต้นได้
โดยเห็นได้จากการเปิดจองกองทุนเทอมฟันด์ของ บลจ.อีสท์สปริง ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 6M9 (ES-GOVCP6M9) และ กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 6M10 (ES-GOVCP6M10) ซึ่งมีอายุกองทุนประมาณ 6 เดือน และมีมูลค่าโดยรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท ได้รับกระแสการตอบรับอย่างดี สามารถปิดการจองซื้อกองทุนได้ก่อนครบกำหนดระยะเวลาเสนอขาย
นางสาวดารบุษป์ กล่าวว่า สภาวะดังกล่าวสะท้อนถึงความต้องการของนักลงทุน ที่แสวงหาการลงทุนที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอนในระยะเวลาอันสั้น ภายใต้ความเสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ประเด็นความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
และอีกหลายปัจจัยที่ทำให้การลงทุนมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวังหรือมีโอกาสสูญเสียเงินต้น กองทุนเทอมฟันด์จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย และยังมีโอกาสรับผลตอบแทนตามที่ประมาณการไว้
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่มีอย่างต่อเนื่อง บลจ.อีสท์สปริง จึงเตรียมเสนอขายกองทุนเพิ่มอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 1Y6 (ES-GOVCP1Y6) ระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุประมาณ1 ปี เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
โดยมีนโยบายนำเงินไปลงทุนในตราสารที่มุ่งรักษาเงินต้น ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วนประมาณ 100% ของ NAV โดยคาดหวังผลตอบแทนประมาณ 2.35% ต่อปีของ NAV หลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.20% ต่อปีของ NAV แล้ว จะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 2.15% ต่อปีของ NAV
กองทุน ES-GOVCP1Y6 จะลงทุนครั้งเดียว และถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยบลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้ โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 1 ปี
ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ หากผู้ออกตราสารหรือธนาคารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้
และบริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ