บลจ.กสิกรไทย เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้เข้าลงทุนกับกองทุนการันตีเงินต้นกองใหม่ “KGSTEPB” ชู 2 ฟีเจอร์เด่นทั้งการรับประกันเงินต้น และการรับผลตอบแทนแบบขั้นบันได (Step-up) เน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก กองทุนมีอายุโครงการ 5 ปี 2 เดือน พร้อมเปิดขาย IPO ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 12 ก.ค. นี้
นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากการเสนอขายกองทุนการันตีเงินต้นในรอบที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้ลงทุนไทยอย่างท่วมท้น
โดยสามารถระดมทุนได้สูงกว่า 4,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นครองสถิติกองทุน IPO ที่มียอดขายสูงที่สุดของปี (ไม่นับรวมกองทุน Term Fund)
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่พลาดโอกาสการลงทุนในรอบที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนอีกครั้งกับกองทุนการันตีเงินต้นกองใหม่ “กองทุนเปิดเค การันตีสเตปอัป B หรือ K Guaranteed Step-up B Fund (KGSTEPB)” เปิดเสนอขายครั้งเดียว ในระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2567 – 12 กรกฎาคม 2567
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย ได้ร่วมมือกับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรป ได้แก่ Amundi Asset Management บริษัทจัดการกองทุนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในยุโรป ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุน (Outsourced Fund Manager) และ Credit Agricole สถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในยุโรป ทำหน้าที่เป็นผู้ประกันเงินลงทุนของกองทุน (Guarantor)
ทั้งนี้ กองทุน KGSTEPB มีอายุโครงการประมาณ 5 ปี 2 เดือน และมีนโยบายการลงทุนที่เน้นกระจายลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งพันธบัตร หุ้นกู้ และหุ้น ซึ่งจะสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ ได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงอย่างเดียว
ตามแนวคิดที่กล่าวว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทจะทำหน้าที่สร้างผลตอบแทนให้ได้ในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ กองทุน KGSTEPB ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เฉพาะตัวทั้งการรับประกันเงินต้น และการรับผลตอบแทนแบบขั้นบันได (Step-up)
“การรับประกันเงินต้น จะมีผลเมื่อผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนครบตามอายุโครงการ 5 ปี 2 เดือนเท่านั้น โดยการรับประกันจะไม่รวมค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end fee) ดังนั้น หากผู้ลงทุนขายคืนก่อนครบกำหนด ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับกำไรหรือขาดทุน ตามราคา NAV ณ วันที่ขายคืน โดยปราศจากการรับประกันเงินต้น
แต่หากผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนจนครบกำหนด ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับกำไร ตามราคา NAV ที่ปรับขึ้น (กรณีราคา NAV สูงกว่า NAV ที่รับประกัน) หรือ ตามราคา NAV ที่รับประกัน (กรณีราคา NAV ต่ำกว่า NAV ที่รับประกัน)
ส่วนการรับผลตอบแทนแบบขั้นบันได (Step-up) จะมีผลเมื่อราคา NAV ปรับตัวขึ้นทุก 5% ด้านราคา NAV ที่รับประกันจะถูกปรับขึ้นอีก 2.5% (ตามรูป) และเมื่อ NAV ที่รับประกันถูกปรับขึ้นแล้ว จะไม่ถูกปรับลงอีก แม้ว่าราคา NAV จะลดลงก็ตาม” นายวจนะกล่าว
นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน KGSTEPB สามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาท ซื้อง่ายอย่างปลอดภัยด้วย App K PLUS และ K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทย และ ผู้แทนสนับสนุนการขาย
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกช่องทางของกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่ www.kasikornasset.com