“วงษ์สยามก่อสร้าง” เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งเงิ นทุนเปิดจองซื้อหุ้นกู้ 4 ชุด
มูลค่ารวมไม่เกิน 2,200 ล้าน จ่ายดอกเบี้ยคงที่ 3.25 – 4.15% ต่อปีชูเรตติ้งสูงสุด AAA(tha) ค้ำประกันโดย CGIF เสนอขาย 5-7 ส.ค.นี้ แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุ นรายใหญ่
บจก.วงษ์สยามก่อสร้าง หรือ VSK ผู้นำธุรกิจบริหารจัดการระบบน้ำ แบบครบวงจร พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด อายุ 3 ปี 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี รวมมูลค่าที่เสนอขายไม่เกิน 2,200 ล้านบาท ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.25% – 4.15% ต่อปี
จุดเด่นมี CGIF ค้ำประกัน ชูเรตติ้งระดับท็อป “AAA(tha)” เปิดจองซื้อ 5-7 ส.ค. 67 ให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุ นรายใหญ่ เสนอขายผ่าน 11 สถาบันการเงินชั้นนำ เดินหน้าระดมทุนต่อยอดธุรกิจ เพื่อคงความเป็นผู้นำธุรกิ จการให้บริการด้านน้ำ แบบครบวงจรในประเทศไทย
นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด หรือ VSK ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจั ดการระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำและธุ รกิจก่อสร้างสาธารณูปโภคด้านน้ำ แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 รวม 4 ชุด
โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดหุ้นกู้ ระยะยาว ระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 2,200 ล้านบาท เสนอขายไม่เกิน 2.2 ล้านหน่วย แบ่งเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุหุ้นกู้ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.25% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุหุ้นกู้ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2572 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.65%
หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุหุ้นกู้ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2574 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุหุ้นกู้ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2577 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.15% กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และ 8 สิงหาคม ตลอดอายุหุ้นกู้
หุ้นกู้ VSK จะเปิดจองซื้อในวันที่ 5-7 สิงหาคม 2567 แก่นักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) และนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth Investor) กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท โดยผู้ออกหุ้นกู้ได้รับการจัดอั นดับเครดิตเรตติ้งที่ “AAA(tha)” จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567
ซึ่งเป็นอันดับเครดิตสูงสุ ดสำหรับตราสารหนี้ที่ ออกในประเทศไทย สะท้อนถึงศักยภาพของผู้ค้ำประกั นซึ่งก็คือ Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ซึ่งเป็นกองทุน (Trust Fund) ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่ งเอเชีย (Asian Development Bank หรือ ADB) ที่มีสถานะทางการเงินและผู้ร่ วมทุนที่แข็งแกร่งมาก
รวมถึงสะท้อนถึงศักยภาพของ VSK ในการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้ านการบริหารจัดการระบบโครงข่ ายท่อส่งน้ำ และธุรกิจก่อสร้างสาธารณูปโภคด้ านน้ำแบบครบวงจรรายเดี ยวในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่มี ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และให้ผลตอบแทนมั่นคง โดยจะเสนอขายหุ้นกู้ผ่านผู้จั ดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 11 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่
– บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
– บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-820-0100
– บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999
– บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1801
– บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โทร. 02-625-2422
– บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543
– บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000
– บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
– บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6624
– บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร.02-153-9290 ต่อ 8163, 8164
– บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) โทร. 02-659-5272, 5273
วัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งนี้ VSK จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการลงทุ นและก่อสร้างระบบท่อน้ำดิ บในภาคตะวันออก โดยโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวั นออก (EEC) ถือเป็นศูนย์กลางของการขับเคลื่ อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
ด้วยการพัฒนาด้าน โครงสร้างพื้ นฐาน ด้านเทคโนโลยี และการยกระดับธุรกิจเพื่อสร้ างแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิ จของประเทศไทยในระยะยาว
ขณะเดี ยวกันการพัฒนา EEC ส่งผลให้ในบริเวณดังกล่าว มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้ นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจ VSK เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับสัมปทานโครงการบริ หารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำ สายหลักในภาคตะวันออกระยะเวลา 30 ปี แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนผลการดำเนิ นงานให้เติบโตอย่างมีนัยสำคั ญในอนาคต
“เราเชื่อมั่นว่าการออกหุ้นกู้ ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะนอกจากจะได้รั บผลตอบแทนคงที่ ตลอดระยะเวลาการลงทุนแล้ว การที่มี CGIF เข้ามาค้ำประกันหุ้นกู้ของ VSK สามารถการันตีว่าบริษัทฯ ประกอบธุรกิจที่ได้ มาตรฐานการปกป้องสิ่งแวดล้ อมและสังคมตามที่ CGIF กำหนด
นอกจากนี้ เกณฑ์ที่ CGIF ใช้ในการประเมินจะรวมไปถึ งสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานย้อนหลัง คุณภาพในการบริหารจัดการ ความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อให้มั่นใจว่าเครดิตของบริ ษัทฯ นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี” นายอนุฤทธิ์ กล่าว