NEWS PROPERTY

ฮ็อป อินน์ ตั้งเป้า 2030 ยกระดับขึ้นสู่ เครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเซียแปซิฟิค

ฮ็อป อินน์ มาตรฐานเดียวกันทุกที่ทุกประเทศ Consistency is Yours ตั้งเป้า 2030 ยกระดับขึ้นสู่ เครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเซียแปซิฟิค

ฮ็อป อินน์ ผู้นำโรงแรมระดับบัดเจ็ทที่มีการดำเนินงานอยู่ทั่วประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น  พร้อมปรับกลยุทธเจาะตลาดใหม่ขยายฐานสร้างแบรนด์ระดับสากล เน้นมาตรฐานเดียวกันทุกที่ทุกประเทศ “Consistency is Yours” เจาะตลาดนักเดินทางที่มองหาความคุ้มค่าทุกประเภททั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทสัญชาติไทยที่มีสาขามากกว่า 70 โรงแรม จำนวนห้องพักรวมมาก กว่า 7,000 ห้อง ครอบคลุม 3 ประเทศ ภายใต้การพัฒนาและบริหารของบริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด ในเครือ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตอบโจทย์นักเดินทางทุกประเภท ตั้งเป้าขยายเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอย่างน้อย 3 ประเทศใหม่ ในเอเชียแปซิฟิก

มั่นใจหลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมฮ็อป อินน์ ในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมกัน 4 สาขาในไตรมาสแรกของปี 2024 เตรียมแผนรุกหนักเพิ่มจำนวนสาขาในประเทศที่มีโรงแรมฮ็อป อินน์แล้ว เพื่อครองใจและเพิ่มฐานลูกค้าในประเทศปัจจุบัน ตั้งเป้ารายได้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี(CAGR) มากกว่า 15% ปักธงในปี 2030 ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

คุณนลินี กฤษฎาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบริหารธุรกิจ กล่าวว่า “ฮ็อป อินน์ ให้บริการครอบคลุม 40 จังหวัดในไทย เราจึงเป็นเครือข่ายโรงแรมที่มากสุดในประเทศไทย เน้นที่ความมีมาตรฐานที่ดีตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของนักเดินทาง การสร้างเครือข่ายโรงแรมที่มีความสม่ำเสมอด้านความสะอาด สะดวก สบาย ในระดับราคาที่ใครๆก็เข้าถึงได้

คือ ความแตกต่างของเรากับเครือข่ายโรงแรมอื่นไม่ว่าในประเทศหรือในต่างประเทศ  ลูกค้าที่เคยได้มาเข้าพักกับเรา 2-3 ครั้ง จะมีความมั่นใจได้ว่าเค้าจะได้ประสบการณ์เดียวกันไม่ว่าจะ hop ไปที่ไหน ไม่ต้องลุ้นว่าจะไปเจออะไร ซึ่งเป็นหนึ่งใน pain point ที่สำคัญของคนที่เดินทางไม่ว่าจะไปทำงานหรือท่องเที่ยว

รวมถึงปีนี้ ฮ็ฮป อินน์ จัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า ไม่ว่าเป็น ฮ็อป อินน์ 10 ปี ลุ้นทองทุกเดือนที่ไทย หรือ ฮ็อป อินน์ Stay and Fly ที่ฟิลิปปินส์ และสมาชิก Hop Reward สามารถสะสมหรือใช้ Points ส่วนลดข้ามกันระหว่างประเทศได้”

“ฮ็อป อินน์ เราอยากทำให้ทุกการเดินทางของทุกคนง่ายขึ้น เราตั้งใจทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายทุกขั้นตอน หาง่าย จองง่าย พักสบาย ราคาเข้าถึงได้ เราให้ความสำคัญสูงสุดเรื่อง ความสม่ำเสมอในทุกมิติ ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีทั้งก่อนและหลังเข้าพักให้กับลูกค้า

เรามีนโยบายที่เป็นเจ้าของและบริหารโรงแรมทั้งหมดเอง เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้  100% ของทั้งเครือ โดย 95% เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ทุกโรงแรมมีความสม่ำเสมอ ทั้งด้านการออกแบบรูปลักษณ์ และมาตรฐานการบริการ ที่ไม่ว่าไปพักที่ประเทศใด สาขาไหน

ไม่จะเป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิด หรือเปิดบริการมา 10 ปี   ที่กล่าวมาข้างต้นมาจากความตั้งใจของทีมงานทุกคน  ซึ่งสะท้อนคำมั่นสัญญาตลอด 10ปี ที่มอบให้กับลูกค้า “Consistency is Yours” หรือ “ความสม่ำเสมอเป็นของคุณเสมอ”

เราให้บริการลูกค้ามากกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี ทีมงานทุกคนขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาเข้าพักกับเรา ฮ็อป อินน์ มีความพร้อมที่จะมอบการบริการที่ดีมีคุณภาพในทุกประเทศที่เราไปขยายและมั่นใจว่าแบรนด์จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล” คุณ นลินี กล่าวเพิ่มเติม

คุณพิชานันท์ บุญพร้อมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 10 ของโรงแรมฮ็อป อินน์ ตลอด 10 ปีเราสามารถทำได้ตามแผนทั้งการขยายและการรักษาคุณภาพการบริการ เราตั้งเป้าที่ใหญ่และสำคัญในปี 2030 จะขึ้นเป็นเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเซียแปซิฟิค

ปีนี้โรงแรมฮ็อป อินน์ ญี่ปุ่น เปิดให้บริการครบ 4 สาขา ในโตเกียวและเกียวโต และโรงแรมฮ็อป อินน์ ฟิลิปปินส์ เปิดให้บริการครบ 10 สาขา ครอบคลุม 3 เกาะหลัก ได้รับเสียงตอบรับที่ดีและเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น จากหลายประเทศหลากหลายทวีป จึงทำให้เรามั่นใจว่าจะขยายเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอย่างน้อยในอีก 3 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

 “เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ฮ็อป อินน์ มีความพร้อมด้านการลงทุนตามแผนระยะยาว แผนการ  Spin-off ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  มีการแยกส่วนบริหารงานและตั้งเป้าหมายแผนการทำงานของแต่ละปีอย่างชัดเจน ตอนนี้เราได้ Strategic partner ซึ่งจะมาเป็น Partner ที่มีความสามารถประสบการณ์ด้านการลงทุนทั่วเอเชียแปซิฟิก

เป็นการเสริมความพร้อมในการยกระดับโรงแรมฮ็อป อินน์ เพื่อก้าวสู่อันดับหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก คาดการณ์ว่าจะยื่นเสนอบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2027 เพื่อให้สามารถนำหุ้นออกเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อสนับสนุนแผนขยายงานระยะยาว” คุณพิชานันท์ กล่าวทิ้งท้าย

ใส่ความเห็น