บทวิเคราะห์ โดยบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS)
SCB คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นต่อเนื่อง แนะนำเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคาร
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ยังคงมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้ นอย่างต่อเนื่อง โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนิ นงานและต้นทุนที่ต่ำกว่าคาด KKPS จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2024 ขึ้น 3% แต่ได้มีการปรั บลดประมาณการกำไรลงเล็กน้อย 1% และ 2% ตามลำดับสำหรับปี 2025 และ 2026
จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ ยนโยบาย โดยยังคงแนะนำ SCB เป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคาร เนื่องจากมีแนวโน้มการเติ บโตของกำไรในปี 2025 และมีอัตราเงินปันผลที่น่าจั บตามองอยู่ที่ราว 9%
นอกจากนี้ อัตราการเกิดหนี้เสียใหม่ (NPL formation) ของ SCB ปรับตัวดีขึ้น ลดลงจาก 264 bps ในไตรมาส 2 เหลือ 242 bps ในไตรมาส 3 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยแปดไตรมาสที่ผ่ านมา โดยหลักมาจากกลุ่มลูกค้าธุรกิ จขนาดใหญ่ สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อ
ขณะเดียวกันต้นทุนทางด้านเครดิ ตของสินเชื่อบุคคล (Gen-2) ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 10.7% ในไตรมาส 2 เหลือ 8.5% ในไตรมาส 3 จากกลยุทธ์การลดความเสี่ยงของ Card X และการปรับปรุงกระบวนการในการติ ดตามหนี้ ทำให้คุณภาพสินเชื่อที่อยู่อาศั ยบางส่วนกลับมาดีขึ้นจาก stage 3 เป็น stage 2 อีกครั้ง
แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ถึ งการลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปี 2025 แต่ KKPS ยังคงคาดการณ์ผลกำไรของ SCB ที่ 41.8 พันล้านบาทในปี 2025 ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการขายธุรกิจ Purple Ventures (Robinhood)
ซึ่งจะช่วยลดการขาดทุนต่อปีราว 2 พันล้านบาท ขณะเดียวกันการลดค่าใช้จ่ายด้ านเครดิตลง 10 bps มาอยู่ที่ 170 bps จะช่ วยบรรเทาผลกระทบจากการลดดอกเบี้ ยนโยบาย
ทั้งนี้ คาดว่า SCB จะสามารถรักษาสัดส่วนการจ่ายเงิ นปันผลอยู่ที่ 80% อย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนเงินทุนสำรองส่ วนของผู้ถือหุ้น (CET-1) ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณ 17.8% ซึ่งเพียงพอที่จะเพียงพอรองรั บการเติบโตของสินเชื่อราว 2.5% ในช่วงปี 2025-2026