LIFESTYLE

ท็อปส์ จุดประทัดแคมเปญใหม่ต่อเนื่อง ปลุกตลาดค้าปลีกช่วงตรุษจีน ตั้งเป้ากระตุ้นยอดขายโต 20%

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จุดประทัดต้อนรับปีมะเส็ง ส่งความเฮงทั่วประเทศ ในแคมเปญ “THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025” พร้อม ปลุกตลาดค้าปลีก ช่วงตรุษจีน ตั้งเป้ากระตุ้นยอดขายโต 20%

ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มั่นใจค้าปลีกไทยยังโต เดินหน้าเปิดประตูรับศักราชใหม่ปีมะเส็ง เปิดตัวแคมเปญใหญ่แรกแห่งปี “THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025” 

จับเทรนด์ผู้บริโภคและอินไซต์ลูกค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน พัฒนาเป็นกลยุทธ์ ‘The Great 4As’ มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยพาเหรดสินค้ามงคลคุณภาพเยี่ยมคัดสรรมาอย่างดี รวมกว่า 1,500 รายการ เสริมทัพด้วยโปรโมชันและดีลสุดคุ้ม

พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดจับจ่ายสินค้าตรุษจีนสูงสุด (Top Spenders) รับสิทธิ์ลงทะเบียนเข้าร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน พรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญ พร้อมตั้งเป้ากระตุ้นยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 20% เปิดให้สั่งจองสินค้าล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ – 24 มกราคม 2568 ที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด, ท็อปส์ เดลี่ และช่องทางท็อปส์ ออนไลน์

นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า “เทศกาลตรุษจีนนับเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโมเมนตัมของธุรกิจค้าปลีกที่ต่อเนื่องมาจากช่วงปีใหม่ ที่จะสร้างความคึกคักและก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมทั่วประเทศ

โดยในปี 2567 ตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวเต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 โดยคาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.6% ในช่วงปี 2568-2570 ทำให้มูลค่าตลาดขยายตัวเป็น 2.3 ล้านล้านบาท (ที่มา: Euromonitor)

โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 นั้น คาดว่าได้รับอานิสงค์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่าง มาตรการ ‘EASY e-RECEIPT’ และภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ท็อปส์ ในฐานะผู้นำเชนธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย เล็งเห็นโอกาสในการกระตุ้น ภาคการบริโภคของตลาด ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้

จึงเดินหน้าจัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกของปี THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ต้อนรับปีมะเส็ง ด้วยสารพัดสินค้าและเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็มที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ท็อปส์ได้เป็นจุดหมายของการจับจ่ายและซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน”

สำหรับแคมเปญ THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่รับเทศกาลตรุษจีนประจำปีนี้ ท็อปส์ มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยพบข้อมูลแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2568 ที่เรียกว่า 4s Trends ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้

Smart Spending & Value Equation – ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เน้นคุ้มค่า คุ้มราคา: แม้เศรษฐกิจไทยจะยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการจากภาครัฐช่วยเป็นแรงหนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความจำเป็นของสินค้าเป็นปัจจัยหลัก

รวมทั้งพิจารณาความคุ้มค่าของสินค้าเทียบกับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการใช้จ่ายรัดกุมมากพอ และจะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต

Self-Healing – ฮีลใจ, ทันกระแส, และมีสตอรี่: เศรษฐกิจที่กำลังกลับมาฟื้นตัว และสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรายวัน ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมุ่งแสวงหาความสุขทางใจมากขึ้น ซึ่งความสุขที่ใกล้ตัวและตอบสนองความต้องการได้เร็วที่สุด ก็คือการซื้อหาสินค้าที่สวยงามทันสมัย นำเทรนด์ใหม่ ๆ หรือมีเรื่องราวที่ทำให้ประทับใจ

Sustainability – ดีต่อโลก ดีต่อใจ เน้นความยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2568 นี้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนกระแสรักษ์โลก สินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น

Saiyasart – ความเชื่อ พึ่งพาไสยศาสตร์ มูเตลู: แม้ในยุคที่ดิจิทัลเชื่อมต่อกับทุกไลฟ์สไตล์ แต่คนไทยกว่า 88% เชื่อยังคงมีความเชื่อเรื่อง ‘มูเตลู’ ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ระบุว่า

5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด ได้แก่ การเงิน 44%, โชคลาภ 17%, สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3% นอกจากนี้ จากผลสำรวจของวิจัยกรุงศรี พบว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณหนึ่งในสาม ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ มากกว่า 1,000 บาทต่อปี ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด โดย 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี

 

นายจักรกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากดาต้าของลูกค้าท็อปส์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า 54% ของลูกค้าที่มาจับจ่ายมีอายุระหว่าง 35 – 54 ปี หรืออยู่ในช่วงระหว่าง Gen Y และ Gen X เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนของลูกค้าผู้หญิงมากถึง 76% และกว่า 69% อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าว มียอดจับจ่ายซื้อสินค้าต่อตะกร้า (Basket Size) เติบโตขึ้น 23% เทียบกับช่วงเวลาปกติ รวมทั้งในปี 2567 มียอดขายการสั่งซื้อสินค้าตรุษจีนล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ของท็อปส์ที่เติบโตขึ้น 59% เทียบกับปี 2566 และมียอดขายสูงสุด ในวันจ่ายเพิ่มขึ้น +35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

ทั้งนี้ 5 หมวดหมู่สินค้าขายดีในช่วงตรุษจีนปี 2567 คือ ผักและผลไม้ (Produce) 22.2%, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning) 20.5%, เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหาร (Cooking) 11.7%, เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat & Seafood) 9.4% และ ของใช้ในบ้าน (Home Care) 8.6%

ยักษ์ลงทุน

ใส่ความเห็น