บลจ.วรรณปรับพอร์ตสู้ตลาดขาลง แนะ ONE-GLOBFIN พร้อมลดความเสี่ยงให้พอร์ตผ่าน ONE-FFI
บลจ.วรรณ ปรับพอร์ตช่วงตลาดย่อตัว แนะเก็งกำไรระยะสั้นด้วย หุ้นกลุ่มการเงิน กับ ONE-GLOBFIN เนื่องจากหุ้นการเงินมูลค่าไม่แพง ปันผลสูงน่าสนใจ
โดยเฉพาะกลุ่มการเงินในยุโรป และช่วยในการกระจายการลงทุนออกจากหุ้นเทคโนโลยี กอปรกับมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การควบคุมด้านการเงิน ทั้งนี้ หากนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงในสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำ ONE-FFI
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า แนะนำการลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์ เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงระดับปานกลาง โดยมองว่า ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงบลจ.วรรณมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน ซึ่งมองความโดดเด่นจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
ปัจจัยแรก เป็นหุ้นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ในดัชนี MSCI ACWI มีน้ำหนัก 17.63% รองจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ปัจจัยสอง เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายในแง่ธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่ กลุ่มธนาคาร, ประกันภัย, ประกันชีวิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, ตลาดทุน, เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) และกองทุนอสังหาฯ และ
ปัจจัยสาม ประกอบด้วยบริษัทที่เติบโตเร็ว อีกทั้งมีการจ่ายปันผลสูง มีลักษณะผสมระหว่างหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่า ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อการลงทุน
“ความน่าสนใจของหุ้นกุลุ่มการเงินในช่วงนี้ ปัจจัยหลักๆ คือ ราคาไม่แพง เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าถูกที่สุดในดัชนี MSCI ACWI โดยซื้อขายในระดับราคา P/E ต่ำกว่าดัชนี MSCI ACWI ถึง -30%
ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นได้มากในระยะข้างหน้า (Potential upsides) ที่ผ่านมา จ่ายเงินปันผลสูงเทียบกับตลาดหุ้นภาพรวม โดยเฉพาะกลุ่มการเงินในยุโรป ที่มีอัตราการจ่ายปันผลคาดการณ์สูงกว่าดัชนี MSCI ACWI กว่า 3 เท่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
โดยมีอัตราจ่ายปันผลอยู่ที่ 7.1% -7.5% เทียบกับ MSCI ACWI ที่มีอัตราจ่ายปันผลเพียง 2.1% – 2.5% และเมื่อคิดผลตอบแทนรวมกับการซื้อหุ้นคืน มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนสูงถึง 10-15% ต่อปี
อีกทั้ง มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะ หุ้นกลุ่มการเงินในประเทศกำลังพัฒนา ที่มีอัตราการเข้าถึงบริการทางด้านการเงินต่ำ ซึ่งมองว่าน่าสนใจ และกระจายอยู่ในหลายประเทศ เช่น ตุรกี, อียิปต์, คาซัคสถาน, อาร์เจนตินา และบราซิล” นายพจน์กล่าว
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงิน มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากนโยบาย Trump 2.0 ได้แก่ การผ่อนคลายกฎเกณฑ์ควบคุมการควบรวมกิจการ, ลดอัตราทุนสำรองตาม Basel III และยกเลิกการควบคุมค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ล่าช้า (Late fees rule)
ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรหุ้นกลุ่มตลาดทุน, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล ให้ปรับตัวดีขึ้น และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านการจ่ายปันผล, การควบรวมกิจการและการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น
นายพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัจจัยบวกดังกล่าวข้างต้น บลจ.วรรณ แนะนำกองทุนภายใต้การบริหาร กองทุนเปิด วรรณ โกลบอล ไฟแนนเชียล ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-GLOBFIN-RA)
ซึ่งเป็นประเภท Feeder Fund กระจายการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่ม Financial Services โดยลงทุนในกองทุนหลัก BlackRock Global Funds-World Financials Funds ชนิดหน่วยลงทุน Class D2 ในสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ (USD)
โดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดย ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2025 กองทุนหลักมีสัดส่วนการลงทุนรายภูมิภาคโดยลงทุนในสหรัฐฯ 57.59% ยุโรป 30.07% และอื่นๆ 12.74%
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน ONE-GLOBFIN-RA ยังได้รับโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย โดยผู้ถือหน่วยลงทุน ที่มียอดเงินลงทุนทุกๆ 10,000 บาท รับหน่วยลงทุนกองทุน 1AM-DAILY-RA มูลค่า 20 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคมนนี้
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงในสินทรัพย์เสี่ยงเช่น หุ้น ในช่วงที่ ทิศทางการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากความไม่แน่นอนนโยบายการเก็บภาษีนำเข้า
ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อลดลงอย่างช้าๆ หนุนให้พันธบัตรสหรัฐฯ (Bond yield) ยังทรงตัวสูง บลจ.วรรณ แนะนำกองทุน วรรณ ตราสารหนี้ต่างประเทศ (ONE-FFI) เน้นลงทุนโดยตรงในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Treasury) อายุเฉลี่ยต่ำกว่า 1 ปี
โดยจุดเด่นของกองทุน คือ ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำที่สุด สภาพคล่องสูง มีความน่าเชื่อถือสูง อีกทั้ง เปิดโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถรายละเอียดได้ที่ บลจ.วรรณ 02-659-8888 บล. ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด 02-095-8999 กด 0 และ ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้ง
ยักษ์ลงทุน https://www.yaklongtun.com/
Post Views: 13