หัวเว่ย คลาวด์ ประเทศไทย เปิดตัวบริการคลาวด์ใหม่ ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านขององค์กรสู่ AI-Native ในยุคปัญญาประดิษฐ์
หัวเว่ย คลาวด์ ประเทศไทย เปิดตัวบริการคลาวด์ใหม่ล้ำสมัยที่งาน “Intelligence Ignites a New Era: Huawei Cloud Reshaping Thailand’s Digital Wave” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคAI อย่างเต็มรูปแบบ และเร่งการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล
งานสัมมนาเทคโนโลยีครั้งนี้ จัดขึ้น ณ โรงแรมเรเนสซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ โดยมีผู้นำธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคกว่า 200 คนเข้าร่วมงาน เพื่อสำรวจคุณค่าของข้อมูลในยุค AI และอภิปรายนวัตกรรมที่กำลังหล่อหลอมอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย
กลยุทธ์ AI: เครื่องยนต์ใหม่เพื่ออุตสาหกรรม
ในขณะที่ AI ขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ เซลีน เกา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย คลาวด์ ประเทศไทย เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า “AI ไม่ควรเป็นเทคโนโลยีที่มีกำแพงสูง ด้วยความร่วมมือและนวัตกรรมแบบโอเพนซอร์ส (open source) ทุกประเทศสามารถสร้างระบบนิเวศอัจฉริยะที่ปรับให้เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่นได้”
ศาสตราจารย์ ดร. จิง ถาง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว โดยเน้นย้ำว่าองค์กรสามารถบรรลุการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัจฉริยะอย่างคุ้มค่าได้ โดยการปรับแต่งโมเดลขนาดใหญ่แบบโอเพนซอร์ส (open asfoด้วยข้อมูลคุณภาพสูง)
หัวเว่ย คลาวด์ มอบทางเลือก AI ที่ดีกว่าสำหรับประเทศไทย
บริการ Huawei Cloud AI Cloud Service มอบพลังการประมวลผลที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพ และเสถียร รองรับองค์กรและนักพัฒนาในการสร้างแอปพลิเคชัน AI ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
แพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโมเดลโอเพ่นซอร์สหลัก ๆ เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมเครื่องมือบนคลาวด์ที่ช่วยลดความซับซ้อนของการตั้งค่าผ่านการเข้าถึงแบบคลิกเดียว ใช้งานได้ทันที
- ความก้าวหน้าทางเทคนิค: โซลูชัน DeepSeek Localization ที่ขับเคลื่อนโดย Huawei Cloud AI Cloud Service ลดระยะเวลาการติดตั้งจาก 2 สัปดาห์เหลือเพียง 2 วัน ลดต้นทุนการอนุมานลง 40% และรองรับทั้งโมเดลขนาดใหญ่และเวอร์ชันแบบกระชับ
- นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยสถานการณ์จริง: หัวเว่ย คลาวด์ เปิดตัว 3 โซลูชันหลักที่ใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมกว่า 30 รายการ
- ศูนย์กลางปฏิสัมพันธ์อัจฉริยะ (Intelligent Interaction Hub): DeepSeek+Chatbot
รองรับการเข้าใจภาษาธรรมชาติที่แม่นยำและการโต้ตอบเฉพาะบุคคล ใช้งานได้ในภาคบริการลูกค้า การศึกษาสาธารณสุข และการเงิน - การปฏิวัติประสิทธิภาพการพัฒนา (Development Efficiency Resolution): DeepSeek+CodeArts ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปรับใช้ได้ถึง 20 เท่า ลดข้อผิดพลาดของโค้ดลง 70% และสนับสนุนการเขียนโปรแกรมอัตโนมัติด้วย Q&A อัจฉริยะและการตรวจสอบโค้ด
- การอัปเกรดการจัดการความรู้ (Knowefege: DeepSeek+KooSearch ) รวมข้อมูลขององค์กรเพื่อสร้างศูนย์ความรู้อัจฉริยะที่เป็นหนึ่งเดียว
พอร์ตโฟลิโอบริการคลาวด์: ขยายรากฐานสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านขององค์กรสู่โมเดลคลาวด์เนทีฟและ AI เนทีฟ หัวเว่ย คลาวด์ โดย ตัน ชือเจีย (Tan ShiJie) รองประธานฝ่ายการขายโซลูชัน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ประกาศเปิดตัวซีรีส์บริการคลาวด์ใหม่ เพื่อสนับสนุนองค์กรในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านอย่างมีประสิทธิภาพ
- โซลูชัน CloudDC: บริการย้ายข้อมูลสู่คลาวด์แบบครบวงจร ที่ผสานศูนย์ข้อมูลที่รองรับคลาวด์และความสามารถ AI แบบเต็มรูปแบบ
- ศูนย์ความต่อเนื่องทางธุรกิจสำหรับการสำรองข้อมูลและการกู้คืนจากภัยพิบัติ (Backup & Disaster Recovery Continuity Center Solution): รับประกันความต่อเนื่องทางธุรกิจด้วยการตรวจจับความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว การกู้คืนที่มีประสิทธิภาพ และการมองเห็นข้อมูลแบบรวมศูนย์
- โซลูชันความปลอดภัยสำหรับโมเดลขนาดใหญ่ (Large Model Security Solution):
มอบความปลอดภัยแบบครบวงจรสำหรับการติดตั้งโมเดล AI ครอบคลุมการปฏิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยในการอนุมาน และการดำเนินการด้านความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ - GaussDB & TaurusDB:
– สถาปัตยกรรมแบบสามชั้นของ GaussDB ช่วยให้ปรับขนาดทรัพยากรได้อย่างยืดหยุ่น
และรองรับการกู้คืนความผิดพลาดอัตโนมัติด้วย AI
– TaurusDB ที่เข้ากันได้กับ MySQL นำเสนอฟังก์ชันการทำงานแบบ Serverless
ที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมความสามารถในการเขียนที่เพิ่มขึ้น - บริการคลาวด์ AI: รองรับการฝึกอบรมโมเดล AI ขนาดใหญ่ด้วยการดำเนินการต่อเนื่องสูงสุด 40 วัน การกู้คืนความผิดพลาดภายใน 10 นาที และความเข้ากันได้กับโมเดล AI กว่า 100 โมเดลจากทั่วโลก รวมถึง DeepSeek และ LLaMA
ความร่วมมือด้านระบบนิเวศ: การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ในระหว่างการประชุม “C-Level Big Data Roundtable” ผู้นำในอุตสาหกรรมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการกำกับดูแลข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์ข้อมูลให้เป็นความได้เปรียบทางการแข่งขัน
อู๋ ชือเว่ย (Wu Shiwei) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของหัวเว่ย คลาวด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเปิดและการสนับสนุนที่ปรับให้เหมาะสมกับท้อ
งถิ่น เราช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจไทยสามารถเปลี่ยนจากการสะสมข้อมูล ไปสู่การสร้างมูลค่าที่แท้จริง”
การประชุมครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ของหัวเว่ย คลาวด์ ในการทำให้เทคโนโลยี AI เข้าถึงได้ในวงกว้างและส่งเสริมความร่วมมือในระบบนิเวศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้ก้าวหน้า
ด้วยการเปิดตัวโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้ หัวเว่ย คลาวด์ ยังคงเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ความอัจฉริยะในทุกอุตสาหกรรมของประเทศไทย
ยักษ์ลงทุน https://www.yaklongtun.com/